อันเชล็อตติปลง! ถูกไล่ออกคือส่วนหนึ่งของโค้ช "ครั้งที่ 6 แล้ว ผมไม่รู้สึกอะไร"

ในการให้สัมภาษณ์กับ แกรี ลินิเกอร์ ในพอดแคสต์ “The Rest Is Football” คาร์โล อันเชลอตติ ได้พูดคุยเกี่ยวกับมุมมองของเขาที่มีต่ออาชีพผู้จัดการทีมฟุตบอล

ลินิเกอร์: “สำหรับคนที่ต้องการเข้ามาในวงการโค้ชหรือผู้จัดการทีมในตอนนี้ และรักอาชีพนี้จริง ๆ คุณจะให้คำแนะนำอะไรแก่พวกเขา คำแนะนำที่มีค่าที่สุดคืออะไร ต้องมีโชคด้วยไหม”

อันเชลอตติ: “ต้องมีความอดทน”

ลินิเกอร์: “แต่สโมสรไม่เคยมีความอดทนเลยใช่ไหม สำหรับโค้ช”

อันเชลอตติ: “ผมต้องบอกว่า การถูกไล่ออกเป็นส่วนหนึ่งของงาน”

ลินิเกอร์: “ผมกำลังจะพูดถึงเรื่องนั้นเลย คุณนึกถึงอาชีพอื่นอีกไหม แม้แต่โค้ชอย่างคุณที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้จัดการทีมที่ประสบความสำเร็จที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลจากความสำเร็จมากมาย แต่ก็ยังถูกไล่ออกหลายครั้ง”

อันเชลอตติ: “ฟังนะ ผมเคยถูกไล่ออกที่ปาร์มา ถูกไล่ออกที่ยูเวนตุส ถูกไล่ออกที่เชลซี ถูกไล่ออกที่บาเยิร์น ผมถูกไล่ออก... ไม่ หยุดก่อน เอาแค่นี้พอ

“ดังนั้น ใช่แล้ว นี่เป็นส่วนหนึ่งของงาน การถูกไล่ออกครั้งแรกมันยอมรับยาก แต่พอถึงครั้งที่ห้า ครั้งที่หก คุณจะเข้าใจว่า เป้าหมายของการทำงานไม่ควรเป็นการหลีกเลี่ยงการถูกไล่ออก แต่ควรอยู่ที่การทุ่มเทให้เต็มที่ ใช่แล้ว แสดงความสามารถของคุณ แสดงความสามารถของคุณออกมา”

ลินิเกอร์: “แต่เวลาถูกไล่ออกจริง ๆ มันก็ต้องรู้สึกแย่ใช่ไหม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณรู้ว่าคุณเก่งมาก”

อันเชลอตติ: “การถูกไล่ออกครั้งแรกผมเสียใจมาก ครั้งที่สองก็ดีขึ้น พอถึงครั้งที่หก ผมก็รู้สึกว่า ‘โอเค ไม่มีปัญหา’ แล้ว”

ลินิเกอร์: “ผมคิดไม่ออกจริง ๆ ว่ามีอาชีพไหนอีกที่ทำได้ดีมาก ดีมาก ๆ แต่ก็ยังมีความเสี่ยงสูงมากที่จะถูกเขี่ยออกไปในวันใดวันหนึ่ง”

อันเชลอตติ: “ผมมีความคิดเห็นของตัวเองเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะในโลกฟุตบอลไม่มีมหาวิทยาลัย ฟุตบอลไม่มีตำรามาตรฐาน อาชีพนี้ยากมาก คนที่สามารถทำงานแบบผมได้มีไม่มากนัก จริง ๆ

“แน่นอนว่าประธานสโมสรส่วนใหญ่ทำไม่ได้หรอก เพราะพวกเขาไม่ค่อยมาที่สนามซ้อม ไม่ได้อยู่ในห้องแต่งตัวเพื่อฟังคุณวางแผนกลยุทธ์ และไม่ได้อยู่ในห้องทำงานเวลาที่คุณคุยส่วนตัวกับนักเตะ นี่คือความเป็นพิเศษของงานโค้ช

“โค้ชมักจะไม่ถูกตัดสินจากกระบวนการทั้งหมดเหล่านี้ พวกเขาถูกตัดสินจากสิ่งเดียวเท่านั้น คือ ผลลัพธ์ ใช่แล้ว ชนะก็เป็นนักเตะที่ดี โค้ชที่ดี แพ้ก็เป็นโค้ชที่แย่ แต่มันไม่ถูกต้อง

“เพราะมีโค้ชที่เก่งมาก ๆ ที่ฝึกซ้อมได้อย่างมีแบบแผน แต่ก็อาจจะไม่ประสบความสำเร็จเสมอไป แต่ถ้าคุณสามารถทำทุกอย่างที่คุณทำได้ดีที่สุด ความสำเร็จก็จะตามมาเอง”

ลินิเกอร์: “ในเมื่อเราคุยกันมาถึงตอนจบแล้ว ความสำเร็จต่อไปของคุณก็คือการพาบราซิลคว้าแชมป์โลก ถ้าคุณทำได้ ผมคิดว่าข้อถกเถียงเรื่องโค้ชที่ประสบความสำเร็จที่สุดในประวัติศาสตร์จะสิ้นสุดลงอย่างไม่ต้องสงสัยเลย”