ผู้บริหารระดับสูงพรีเมียร์ลีก เตรียมอำลาตำแหน่ง นั่งแท่นประธานลีกใหม่ในสหรัฐฯ

ดิ แอธเลติก (The Athletic) รายงานเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน ว่า โทนี่ สโคลส์ (Tony Scholes) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายฟุตบอลของพรีเมียร์ลีกอังกฤษ เตรียมจะลาออกจากตำแหน่งเพื่อไปรับตำแหน่งประธานลีกฟุตบอลชายดิวิชั่น 1 ที่จัดตั้งขึ้นใหม่ของ ยูไนเต็ด ซอกเกอร์ ลีก (USL) ในสหรัฐอเมริกา

โทนี่ สโคลส์ จะมีหน้าที่รับผิดชอบในการกำกับดูแลการเปิดตัวลีกใหม่, วางแผนโครงสร้าง และบริหารจัดการการดำเนินงานทั้งหมด นอกจากนี้ เขายังจะมีบทบาทสำคัญในการนำระบบการเลื่อนชั้น-ตกชั้นมาใช้ในวงการฟุตบอลอาชีพของสหรัฐอเมริกา โดยก่อนหน้านี้ USL ได้ลงมติเห็นชอบในการนำระบบดังกล่าวมาใช้เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และมีแผนจะเปิดตัวลีกใหม่อย่างเป็นทางการในปี 2028 หลังจากได้รับการรับรองเป็นลีกดิวิชั่น 1 จากสมาคมฟุตบอลสหรัฐฯ แหล่งข่าวระบุว่า ระบบเลื่อนชั้น-ตกชั้นอาจเริ่มใช้ได้เร็วที่สุดในปี 2027 ระหว่างลีกระดับดิวิชั่น 2 และดิวิชั่น 3 ที่มีอยู่เดิม แต่ยังไม่มีการตัดสินใจขั้นสุดท้ายในเรื่องนี้

ตลอดการทำงานในพรีเมียร์ลีก โทนี่ สโคลส์ รับผิดชอบการดำเนินงานของการแข่งขันโดยตรง ซึ่งรวมถึงการจัดตารางแข่งขัน, คุณสมบัติผู้เล่น (ตลาดซื้อขายนักเตะ, การลงทะเบียนผู้เล่น), มาตรฐานการแข่งขัน และการบริหารจัดการผู้ตัดสินของพรีเมียร์ลีก เขายังเป็นผู้นำด้านการพัฒนานักเตะ ตั้งแต่ระบบเยาวชนรุ่นอายุ 8 ปีไปจนถึงลีก U21 และทำงานเพื่อส่งเสริมความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างสโมสรสมาชิกและฝ่ายบริหารของลีก

คาดว่า โทนี่ สโคลส์ จะเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการกับ USL ในช่วงฤดูร้อนปี 2026 ซึ่งเป็นช่วงหลังสิ้นสุดฤดูกาลปัจจุบันของพรีเมียร์ลีก

โฆษกของ USL ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ ขณะที่ The Athletic ได้ติดต่อสอบถามไปยังพรีเมียร์ลีกเพื่อขอความคิดเห็นเช่นกัน

ก่อนที่จะมาร่วมงานกับพรีเมียร์ลีก โทนี่ สโคลส์ เคยดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของสโมสรสโต๊ค ซิตี้ เป็นเวลานานถึง 17 ปี และเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการพาสโมสรเลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุดของอังกฤษ

การย้ายไปร่วมงานกับ USL ของเขาเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่สำคัญอย่างยิ่ง ทั้งต่อการเติบโตขององค์กรลีกระดับรองแห่งนี้ และต่อวงการฟุตบอลของสหรัฐอเมริกาโดยรวม ซึ่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สหรัฐฯ ได้กลายเป็นศูนย์กลางของการแข่งขันฟุตบอลรายการใหญ่หลายรายการ ไม่ว่าจะเป็น โคปาอเมริกา 2024, ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 2025 และจะร่วมเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกในปี 2026

การตัดสินใจของ USL ในการจัดตั้งลีกดิวิชั่น 1 และนำระบบเลื่อนชั้น-ตกชั้นมาใช้ ได้จุดประกายให้เกิดความสนใจอย่างกว้างขวางถึงศักยภาพของลีก และทิศทางในอนาคตของวงการฟุตบอลสหรัฐฯ นอกจากนี้ยังทำให้เกิดการคาดการณ์ว่า USL จะแข่งขันกับ เมเจอร์ลีกซอกเกอร์ (MLS) อย่างไร ซึ่ง MLS เองก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลหลังการมาถึงของ ลิโอเนล เมสซี่ ที่สโมสรอินเตอร์ ไมอามี แต่ก็กำลังเผชิญกับจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในการวางแผนอนาคตของลีกหลังฟุตบอลโลก 2026

โทนี่ สโคลส์ จะมีบทบาทสำคัญในการกำหนดอนาคตของ USL ซึ่งปัจจุบันยังมีงานอีกมากที่ต้องทำ โดยแหล่งข่าวระบุว่า นอกจาก USL จะต้องตัดสินใจว่าทีมใดจะได้เลื่อนชั้นจากลีกดิวิชั่น 2 และ 3 ที่มีอยู่เดิมขึ้นมาสู่ลีกดิวิชั่น 1 แล้ว ยังได้รับความสนใจอย่างมากจากกลุ่มทุนภายนอก รวมถึงนักลงทุนต่างชาติ ที่ต้องการจะสร้างทีมใหม่เพื่อเข้าร่วมลีกอีกด้วย

ปัจจุบัน USL มีทีมในลีกดิวิชั่น 2 หรือ USL แชมเปี้ยนชิพ ทั้งหมด 24 ทีม และมี 14 ทีมในลีกดิวิชั่น 3 หรือ USL ลีกวัน ซึ่งทั้งสองลีกกำลังจะเริ่มการแข่งขันรอบเพลย์ออฟในช่วงสุดสัปดาห์นี้

เมื่อเร็วๆ นี้ USL ยังได้ประกาศความร่วมมือกับบริษัทลงทุน BellTower Partners และได้แต่งตั้ง คิวซง ลี (Kewsong Lee) ซีอีโอของ BellTower ให้ดำรงตำแหน่งรองประธานบอร์ดบริหาร คิวซง ลี ซึ่งเป็นอดีตซีอีโอของ Carlyle Group ได้เข้าลงทุนใน USL และกล่าวในแถลงการณ์ว่า เขาเล็งเห็นถึง "ความต้องการที่ยั่งยืนสำหรับสโมสรที่เน้นชุมชนเป็นศูนย์กลาง, สภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน และศักยภาพในการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญสำหรับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย ในขณะที่ USL เดินหน้าขยายเส้นทางการพัฒนาฟุตบอลทั้งชายและหญิงต่อไป"