ผู้บริหารยก! "ซน ฮึง-มิน" คือดีลทอง "เมสซี่" คือปรากฏการณ์เหนือโลก

ซน ฮึง-มิน ย้ายจากท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์มาร่วมทีม แอลเอเอฟซี ในช่วงฤดูร้อนปีนี้ กลายเป็นการเซ็นสัญญาที่ประสบความสำเร็จที่สุดครั้งหนึ่งของเมเจอร์ลีกซอกเกอร์ (MLS) สเตซีย์ จอห์นส์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการพาณิชย์ของแอลเอเอฟซี ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ GIVEMESPORT ถึงผลกระทบของการย้ายทีมครั้งนี้

“ซน ฮึง-มิน เป็นคนพิเศษสำหรับเรา การเซ็นสัญญาครั้งนี้มีการวางแผนมาอย่างดี เขาตรงตามข้อกำหนดการเสริมทัพของเราทั้งหมด เราต้องการผู้เล่นแบบเขา และเมื่อรวมกับสไตล์ บุคลิก และกระแสตอบรับทางการตลาดที่เขาสามารถสร้างขึ้นได้ นี่คือทางเลือกที่เราไม่ต้องคิดมากเลย”

“สิ่งที่ประทับใจเรามากที่สุดคือความรักในฟุตบอลและเสน่ห์ส่วนตัวของซน ฮึง-มิน แผนกกีฬาของเราไม่ได้มองแค่ทักษะของผู้เล่นเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับอุปนิสัยของพวกเขาด้วย ต้องบอกว่าเราเคยได้ยินเรื่องราวดีๆ เกี่ยวกับซน ฮึง-มิน มามากมาย แต่เมื่อเขามาปรากฏตัวต่อหน้าคุณ คุณจะพบว่าเขายอดเยี่ยมยิ่งกว่าคำร่ำลือเสียอีก”

“อย่างไรก็ตาม ในแง่หนึ่ง การเซ็นสัญญากับซน ฮึง-มิน ถือเป็นการเดิมพันครั้งใหญ่สำหรับเรา เราจ่ายค่าตัวที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของ MLS แต่ฝ่ายปฏิบัติการฟุตบอลและแบบจำลองทางธุรกิจของเราบอกว่าเขาคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป ในมุมมองทางธุรกิจ ซน ฮึง-มิน เกือบจะเป็นการลงทุนที่ไม่มีทางขาดทุน ผลงานของเขาทั้งในและนอกสนามเกินความคาดหมายของเรา”

มีรายงานว่า พิธีเปิดตัวซน ฮึง-มิน มีผู้ชมทาง YouTube เกือบ 250,000 คน และยอดวิวโซเชียลมีเดียของแอลเอเอฟซีทะลุ 34,000 ล้านครั้ง นอกจากนี้ การเข้าร่วมทีมของซน ฮึง-มิน ยังทำให้ยอดผู้ชมเกมเยือนเพิ่มขึ้น 16% โดยเกมที่แอลเอเอฟซีชนะซานโฮเซ่ เอิร์ธเควคส์ 4-2 เมื่อเดือนกันยายน มีผู้ชมในสนามถึง 50,978 คน ซึ่งเป็นสถิติใหม่ ภายใน 72 ชั่วโมงหลังจากการเซ็นสัญญา เสื้อของซน ฮึง-มิน มียอดขายเป็นอันดับหนึ่งในบรรดากีฬาทั้งหมดบนแพลตฟอร์ม Fanatics และปัจจุบันอยู่ในอันดับที่สองของยอดขายสินค้า MLS รองจากลิโอเนล เมสซีเท่านั้น

สเตซีย์ จอห์นส์ กล่าวว่า “ฉันคิดว่าคนอเมริกันชอบดูซูเปอร์สตาร์กีฬา ลองดูซน ฮึง-มิน, [คาร์ลอส] เวลา, เมสซี หรือ [เดวิด] เบ็คแฮม ก็จะเห็นได้ชัดเจน ลอสแอนเจลิสมีความคาดหวังสูงสำหรับซูเปอร์สตาร์ในทุกกีฬา เลอบรอน เจมส์ ก็เป็นตัวอย่างที่ดี”

“การมาถึงของเมสซีได้ยกระดับลีกทั้งหมดอย่างมาก เขาเป็นเหมือน ‘ยูนิคอร์น’ (สิ่งที่หายากและพิเศษ) ในแง่นี้อย่างแท้จริง แต่เราจะไม่เซ็นสัญญากับผู้เล่นเพียงเพื่อดึงดูดความสนใจ ซน ฮึง-มิน ไม่เพียงแต่มีคุณสมบัตินั้น แต่ยังเข้ากับสไตล์ฟุตบอลของเราได้อย่างสมบูรณ์แบบ เราตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่านี่เป็นการเซ็นสัญญาที่พิเศษ ฉันคิดว่าซน ฮึง-มิน คือ ‘ยูนิคอร์น’ ของเรา เป็นผู้เล่นที่สามารถช่วยให้เราชนะเกมและสร้างมูลค่าทางธุรกิจได้ด้วย”

“กลยุทธ์ของเราไม่ได้เป็นแค่การรวมซูเปอร์สตาร์ เราต้องการนำฟุตบอลระดับโลกมาสู่ลอสแอนเจลิส ลงทุนและพัฒนานักเตะดาวรุ่ง ตอบแทนชุมชน และแน่นอนว่าต้องคว้าแชมป์ด้วย ในเมืองที่ให้ความสำคัญกับชัยชนะ หากคุณไม่ทำตามแนวคิดนี้ ก็ยากที่จะประสบความสำเร็จ”

“เมื่อคาร์ลอส เวลา มาร่วมทีมกับเรา สโมสรของเรายังใหม่มาก แม้ว่าเราจะก่อตั้งในปี 2014 แต่เราเพิ่งเริ่มเล่นใน MLS ในปี 2018 ตอนนั้นสิ่งที่เราแสดงให้เวลาเห็นเป็นเพียงแผนงานบนกระดาษ แต่เขาก็เลือกเรา เขาทำผลงานได้ดีที่นี่เพราะเขายอมรับโปรเจ็กต์ของเราและเมืองลอสแอนเจลิสจากใจจริง และเราเชื่อว่าซน ฮึง-มิน ก็เป็นเช่นนั้น”

“เรามีความทะเยอทะยานและหวังว่าจะเซ็นสัญญากับผู้เล่นที่น่าตื่นเต้น กลยุทธ์ของเราไม่ใช่การทุ่มเงินและดึงซูเปอร์สตาร์มาอย่างเดียว แต่ขับเคลื่อนด้วยรากฐานที่แข็งแกร่งและวิสัยทัศน์ที่แท้จริงของฟุตบอล เราหวังว่านี่จะเป็นสโมสรที่สามารถพัฒนาได้อย่างยั่งยืน และดึงดูดทั้งผู้เล่นและแฟนบอล”

สเตซีย์ จอห์นส์ ยังกล่าวถึงประสบการณ์ในการเข้าร่วมฟีฟ่าคลับเวิลด์คัพว่า “การได้เล่นกับทีมอย่างเชลซี เอสเปรานซ์ เด ตูนิส และฟลาเมงโก เป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมอย่างแน่นอน การแข่งขันเหล่านี้ช่วยขยายอิทธิพลของแบรนด์สโมสรของเราเท่านั้น”

ตามรายงานของฟอร์บส์ มูลค่าปัจจุบันของแอลเอเอฟซีอยู่ที่ 1.25 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้เป็นสโมสรฟุตบอลที่มีมูลค่าสูงสุดในอเมริกาเหนือ และอันดับที่ 15 ของโลก แซงหน้าอินเตอร์ ไมอามีที่มีมูลค่า 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แต่สเตซีย์ จอห์นส์ กล่าวว่า มูลค่าสโมสรในยุโรปและสหรัฐอเมริกาไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกันได้ “การปกป้องแบรนด์สโมสรเป็นสิ่งสำคัญมาก ตามข้อมูลของฟอร์บส์ ปัจจุบันมูลค่าของเราเกิน 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และตอนนี้เรามีซน ฮึง-มิน เราเชื่อว่ามูลค่าของเราจะสูงขึ้นไปอีก เราเชื่อว่าการมีเขาอยู่ จะช่วยให้สโมสรพัฒนาได้เร็วกว่าที่วางแผนไว้”