อัตชีวประวัติของอันเชล็อตติ - อับราโมวิชมีความมุ่งมั่นในการคว้าแชมป์

ในฐานะผู้จัดการทีมระดับโลก คาร์โล อันเชล็อตติ เคยคุมทีมชั้นนำหลายแห่งในยุโรป รวมถึงการคุมเชลซีเป็นเวลาสองปี ในอัตชีวประวัติเล่มล่าสุดของเขา "Dream - Winning the Champions League" กุนซือชาวอิตาลีวัย 66 ปี ได้เล่าถึงประสบการณ์การทำงานร่วมกับ โรมัน อับราโมวิช อดีตเจ้าของสโมสรเชลซี

"ผมรู้ว่าประสบการณ์คุมทีมของผมพาผมมาได้ไกลแค่นั้น อับราโมวิชบอกชัดเจนว่าต้องการให้ผมนำเชลซีคว้าแชมป์แชมเปียนส์ลีกและให้ทีมมีสไตล์การเล่นที่ชัดเจนในสนาม" อันเชล็อตติกล่าว "ตอนนี้ผมทำงานให้กับมหาเศรษฐีชาวรัสเซีย ผมเข้าใจทันทีว่าเขาต้องการให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี ถ้าไม่เป็นไปตามที่หวัง เขาต้องการทราบเหตุผล และเป็นหน้าที่ของผมที่ต้องหาคำตอบ ตอนนั้นเองที่ช่วงเวลาของผมในสโมสรเริ่มมืดมัว"

"วันรุ่งขึ้นหลังจากที่เขาเรียกร้องคำตอบ อับราโมวิชก็มาที่สนามซ้อม 'เกิดปัญหาอะไรขึ้น?' ซิลวิโอ แบร์ลุสโคนีไม่เคยควบคุมผมถึงขนาดนี้ เขาเป็นเจ้าของที่เข้มงวด บางครั้งก็ซื้อนักเตะที่ผมไม่ต้องการมาและคาดหวังให้ผมรวมพวกเขาเข้ากับทีมหรือปรึกษาเรื่องแท็คติก แต่หลายครั้งที่เขาเป็นนายกรัฐมนตรีอิตาลี เขาจึงไม่ได้เข้ามาบริหารสโมสรทุกรายละเอียด เขามีเรื่องสำคัญกว่าที่ต้องคิด"

"อับราโมวิชหมกมุ่นอยู่กับการคว้าแชมป์แชมเปียนส์ลีก การแตกหักครั้งแรกกับ โชเซ่ มูรินโญ่ (ซึ่งถูกไล่ออกในปี 2007) ยิ่งเพิ่มแรงกดดัน โดยเฉพาะหลังจากที่อินเตอร์ มิลานเอาชนะเชลซีได้ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายในฤดูกาลแรกของผม วันรุ่งขึ้น อับราโมวิชไม่ได้คุยแค่กับผมเท่านั้น แต่คุยกับทั้งทีมด้วย ปัญหาของผมคือความสำเร็จของมูรินโญ่เป็นผลเสียต่อความสัมพันธ์ของผมกับอับราโมวิช"

"ผมถูกมองว่าเป็นขั้วตรงข้ามของมูรินโญ่ คือเป็นคนสุขุม นิ่ง และสามารถทำให้ทีมกลับมามีชีวิตชีวาได้หลังจากที่เขาจากไป ตามความเห็นของอับราโมวิช มูรินโญ่ควรจะหมดอิทธิพลแล้ว อย่างไรก็ตาม มูรินโญ่กลับทำลายแผนที่วางไว้และทำให้เจ้าของสโมสรอับอาย"

"ความสำเร็จหรือความล้มเหลวในรายการยุโรปคือสิ่งที่อับราโมวิชใช้ตัดสินผม และในที่สุดแชมเปียนส์ลีกก็ทำให้ผมตกงาน คืนก่อนเกมเลกที่สอง (รอบก่อนรองชนะเลิศกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด) อับราโมวิชเตือนทั้งทีมว่าถ้าพวกเขาไม่ชนะจะมีการเปลี่ยนแปลง จากนั้นเขาก็บอกผมว่าถ้าเราแพ้ก็ไม่ต้องมาทำงานในวันรุ่งขึ้น ตอนนั้น เฟอร์นันโด ตอร์เรส ขาดความมั่นใจอย่างเห็นได้ชัด และรู้สึกว่าค่าตัวของเขาเป็นเหมือนก้อนหินหนักอึ้งที่ห้อยอยู่ที่คอเขา ในห้องแต่งตัว อับราโมวิชแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าความพ่ายแพ้ครั้งนี้หมายถึงอะไร สิ่งที่เกิดขึ้นต่อมาจึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้"

"การเซ็นสัญญาคว้าตัวตอร์เรสเป็นการตัดสินใจส่วนตัวของอับราโมวิช และการเปลี่ยนตัวตอร์เรสออกคือการโต้แย้งโดยตรงกับเขา ในขณะนั้นผมลืมไปว่าสุดท้ายแล้วคุณไม่สามารถเอาชนะเจ้าของสโมสรได้"

"บางทีอับราโมวิชอาจทำถูกที่ไล่ผมออก ฤดูกาลถัดมาเชลซีก็คว้าแชมป์แชมเปียนส์ลีกมาให้เขาได้ในที่สุด แม้ว่าเขาจะไล่ผู้สืบทอดตำแหน่งของผมออกหลังจากได้ถ้วยไปหกเดือนก็ตาม ส่วนตัวผมเอง ผมจำได้ว่าทุกวันที่เชลซีเป็นวันที่ดี"