อาร์เตต้าเผยสัจธรรม! ใน UCL คุณจะแพ้มากกว่าชนะ

อาร์เซนอลจะออกไปเยือนแอธเลติก บิลเบาในนัดแรกของยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ก่อนการแข่งขัน มิเกล อาร์เตต้า หัวหน้าโค้ชของอาร์เซนอลได้เข้าร่วมการแถลงข่าว

นักข่าว: สวัสดีครับมิเกล ผมต้องขอโทษด้วยนะครับ สำหรับการเริ่มต้นฤดูกาลของพวกคุณ คุณรู้สึกไหมว่านักเตะพร้อมที่จะคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกแล้ว หลังจากที่ต้องเจ็บปวดจากฤดูกาลที่แล้ว

อาร์เตต้า: อย่างที่คุณได้กล่าวไปแล้ว มันไม่ง่ายเลยครับ ผมหมายถึง พวกเขากระหายที่จะทำมันและอยากจะพัฒนาให้ดีขึ้น ผมรู้สึกว่าพวกเขามีความตั้งใจที่ชัดเจนมาก พวกเขาอยากจะดีขึ้นในทุกๆ วัน นั่นคือจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดครับ เมื่อไม่มีสิ่งอื่นใดที่สามารถควบคุมได้ ก็ต้องสร้างพลังและความเชื่อมั่นในหมู่นักเตะ รวมถึงความเข้าใจและความรู้สึกที่เราสามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้ทุกทีม ใช่ครับ พวกเขามีสิ่งนี้แน่นอน

นักข่าว: คุณพูดถึงการเดินทางไปบิลเบา แล้วครอบครัวของคุณทั้งหมดจะมาดูเกมในวันพรุ่งนี้ไหมครับ พวกเขาจะมากันหมดเลยหรือเปล่า

อาร์เตต้า: ไม่หมดครับ แต่ส่วนใหญ่จะมา ผมตื่นเต้นมากเลยครับ

นักข่าว: สวัสดีครับมิเกล คุณได้รับคำถามมากมายเกี่ยวกับการคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ซึ่งเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ในช่วงต้นฤดูกาล แต่อาร์เซนอลอาจเป็นสโมสรที่ใหญ่ที่สุดที่ไม่เคยคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกเลย คุณรู้สึกถึงแรงกดดันนั้นไหมครับ เพราะลิเวอร์พูลเคยคว้าแชมป์มาแล้วหลายครั้ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดและเชลซีก็เคยคว้าแชมป์มาแล้วเช่นกัน คุณเองก็อยากจะคว้าแชมป์อย่างชัดเจน แต่มันสำคัญแค่ไหนที่จะคว้าแชมป์แรกให้กับอาร์เซนอล

อาร์เตต้า: มันแสดงให้เห็นถึงประวัติศาสตร์อันยาวนานของเรา และความยากลำบากในการคว้าแชมป์รายการนี้ เพราะเรายังไม่เคยทำได้ นั่นคือโอกาส ผมมองว่ามันเป็นแรงกดดัน เป็นโอกาสที่จะสร้างแรงบันดาลใจและกระหายที่จะพัฒนาตัวเองในทุกๆ วัน เพื่อตัดสินใจในทิศทางนั้น ถ้าไม่ใช่แบบนั้น ทุกการตัดสินใจก็ต้องสอดคล้องกับมาตรฐานและความคาดหวังเหล่านั้น เราต้องพยายามอย่างเต็มที่

นักข่าว: คุณคิดว่าการเข้าใกล้ความสำเร็จจริงๆ จะช่วยได้ไหมครับ? ผมหมายถึง คุณเคยทำงานกับเป๊ป กวาร์ดิโอล่าที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้มาหลายปี ซึ่งตอนนั้นพวกเขาก็เคยเข้าใกล้ความสำเร็จมาแล้ว ความผิดหวังนั้นช่วยให้คุณก้าวข้ามเส้นนั้นได้ในที่สุดหรือไม่

อาร์เตต้า: ใช่ครับ สโมสรใหญ่ ผมหมายถึง พวกเขาพยายามถึงเจ็ด แปด หรือเก้าครั้งกว่าจะชนะได้ ดังนั้นในรายการนี้ คุณจะเจอกับความล้มเหลวมากกว่าความสำเร็จมาก นั่นคือธรรมชาติของมัน นั่นคือประวัติศาสตร์ของสโมสรของเรา และนั่นคือสิ่งที่เราต้องการเปลี่ยนแปลง

นักข่าว: สวัสดีครับมิเกล โค้ชผู้เชี่ยวชาญอย่างบัลเบร์เด้ ผมไม่รู้ว่าคุณเคยได้ยินที่เขาพูดหรือเปล่า เขาบอกว่าคุณเป็นหนึ่งในโค้ชที่ดีที่สุดในโลกอย่างแน่นอน คุณคิดอย่างไรกับเรื่องนี้ครับ? และคุณรู้สึกอย่างไรที่ได้กลับมาประเทศของคุณหลังจากที่ออกจากเรอัลโซเซียดาดมา 20 ปี และได้ลงเล่นที่นี่เป็นครั้งแรก แม้ว่าเมื่อกี้คุณจะพูดถึงเรื่องนี้เป็นภาษาอังกฤษไปบ้างแล้ว...

อาร์เตต้า: ก่อนอื่นเลย ผมต้องขอบคุณสำหรับคำพูดของเขา สำหรับผมแล้ว เขาเป็นต้นแบบมาโดยตลอดด้วยเหตุผลหลายประการ ประการแรกคือเขาอยู่ในวงการนี้มานานกว่า 20 ปี และไม่ว่าจะไปที่ไหน เขาก็ได้ทิ้งสองสิ่งไว้เสมอ อย่างแรกคือความสำเร็จของสโมสรที่เขาทำงานด้วย และอย่างที่สองคือวิธีการทำงาน บุคลิกความเป็นมนุษย์ และความเป็นธรรมชาติในอาชีพของเขาที่ได้ทิ้งรอยประทับไว้ ที่สำคัญที่สุด ผมคิดว่าเขามีวิธีการทำงานที่ทำให้เขาแตกต่างจากโค้ชคนอื่นๆ อีกมากมาย ดังนั้นสิ่งที่ผมต้องทำคือเรียนรู้จากเขาและพัฒนาตัวเอง

สำหรับคำถามที่สอง ผมดีใจที่ได้กลับมา ที่นี่เป็นที่ที่ผมทำงานครั้งสุดท้ายเมื่อ 20 ปีที่แล้วครับ เห็นได้ชัดว่าบทบาทตอนนี้แตกต่างออกไปแล้ว ผมยังคงอยากมาสัมผัสบรรยากาศในสนามแห่งนี้และเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งและมีความต้องการสูง แต่ผมตื่นเต้นมากครับ

นักข่าว: สวัสดีครับมิเกล ผมไม่แน่ใจว่าเกมอุ่นเครื่องก่อนเปิดฤดูกาลมีประโยชน์สำหรับการเตรียมตัวสำหรับเกมในวันพรุ่งนี้หรือเปล่า หรือว่ามันเป็นช่วงเวลาที่แตกต่างกันในฤดูกาล

อาร์เตต้า: ไม่ครับ เกมนั้นมีประโยชน์ มันช่วยให้เราได้รับข้อมูลบางอย่าง และความรู้สึกหลังเกมก็ดี แต่เรารู้ว่าพรุ่งนี้จะเป็นโลกที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง นี่คือแชมเปียนส์ลีก ระดับของทั้งสองทีมจะสูงขึ้น และสถานการณ์ก็จะแตกต่างออกไป มันจะเป็นเกมที่แตกต่างกันมากครับ ผมหวังว่าเราจะได้ผลลัพธ์ที่เราต้องการ

นักข่าว: สวัสดีครับมิเกล ผมไม่รู้ว่าคุณได้ยินข่าวว่าลามีน (ยามาล) บาดเจ็บหรือเปล่า และนิโก้ (วิลเลียมส์) ก็บาดเจ็บด้วย ในขณะที่พวกคุณก็มีผู้เล่นสามคนในทีมชาติสเปน การที่ผู้เล่นบาดเจ็บในทุกๆ ช่วงพักทีมชาติเป็นเรื่องที่น่ารำคาญใช่ไหมครับ

อาร์เตต้า: ใช่ครับ เพราะเราสูญเสียผู้เล่นคนสำคัญสามคนไป แต่เราก็สูญเสียผู้เล่นคนสำคัญไปเพราะอาการบาดเจ็บเช่นกัน มันเป็นเพียงส่วนหนึ่งของกระบวนการปกติ เราแค่ต้องพยายามทำให้ผู้เล่นเหล่านี้พร้อม การเล่น 64 เกมเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมโค้ชและสโมสรทั้งหมดถึงต้องการผู้เล่นและทรัพยากรที่มากขึ้น

นักข่าว: สวัสดีครับมิเกล ผมอยากจะพูดถึงเกมครับ แอธเลติก บิลเบาจะมั่นใจมากกับการเพรสซิ่งของพวกเขาในช่วง 15 ถึง 20 นาทีแรก เราจะได้เห็นกันว่าพวกเขาจะวางแผนการเล่นอย่างไร จะเล่นเกมรุกมากขึ้นหรือจะถอยลงไปรับลึก คุณคาดหวังอะไรจากแอธเลติก บิลเบาในวันพรุ่งนี้ครับ จุดสำคัญของแอธเลติก บิลเบาคือการเพรสซิ่งในแดนสูง แล้วคุณคิดว่าจุดสำคัญในการเล่นในแบบของคุณที่ซาน มาเมสคืออะไร

อาร์เตต้า: แน่นอนว่าพวกเขาจะพยายามทำในสิ่งที่พวกเขาต้องการทำ และเมื่อพวกเขาทำได้ พวกเขาจะเป็นทีมที่อันตรายอย่างยิ่ง และที่บ้านพวกเขาก็มีความสามารถที่จะทำในรูปแบบที่แตกต่างกันได้ เราต้องการเกมที่แตกต่างจากที่พวกเขาต้องการ และเราจะพยายามที่จะแก้จุดแข็งของพวกเขาและใช้ประโยชน์จากผู้เล่นที่ดีที่สุดของเราในการเล่น เมื่อพวกเขาเพรสซิ่ง เราจะพยายามหลีกหนีจากแรงกดดันนั้นให้มีประสิทธิภาพมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และพยายามใช้พื้นที่ที่พวกเขาสร้างขึ้น พวกเขามักจะเปลี่ยนวิธีการเล่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของเกม รวมถึงคู่แข่งด้วย ดังนั้นเราต้องพยายามปรับตัว เราเป็นทีมที่มีเกมรุกสูง และผมหวังว่ามันจะเป็นเกมที่ยอดเยี่ยมครับ

นักข่าว: สวัสดีตอนบ่ายครับมิเกล ผมมีสองคำถามครับ: ตอนนี้ มิเกล เมริโน่ อยู่ในช่วงที่ดีที่สุดในอาชีพการงานของเขาใช่ไหมครับ และอย่างที่สอง คุณคิดว่าบัลเบร์เด้จะคิดถึงนิโก้ วิลเลียมส์ มากไหมที่ไม่ได้ลงเป็นตัวจริง

อาร์เตต้า: มิเกล เมริโน่ อยู่ในระดับที่สูงมาเป็นเวลานานแล้วครับ แต่ตอนนี้ความสำคัญของสิ่งที่เขาทำมันยิ่งใหญ่มาก คุณภาพ บุคลิก ลักษณะเฉพาะของเขา และความหลากหลายที่เขานำมาสู่ผลงานของเรา สำหรับนิโก้ ผมคิดว่าเอร์เนสโต้คงอยากให้เขามีเหมือนที่เราอยากให้ผู้เล่นคนอื่นที่เก่งมากๆ แต่ลงเล่นในวันพรุ่งนี้ไม่ได้เหมือนกัน อย่างไรก็ตาม เราจะพยายามทำผลงานให้ดีที่สุดด้วยผู้เล่นที่เรามีครับ

นักข่าว: ยินดีต้อนรับกลับบ้านครับ ในช่วงซัมเมอร์ที่วุ่นวายของนิโก้ วิลเลียมส์ อาร์เซนอลสนใจที่จะเซ็นสัญญากับเขาไหมครับ

อาร์เตต้า: ผมพูดไม่ได้ครับ ผมพูดได้แค่ว่านิโก้เป็นผู้เล่นที่ยอดเยี่ยม และคุณสามารถชื่นชมเขาได้ทุกสัปดาห์ทั้งที่นี่และในทีมชาติ แต่ผมพูดอะไรไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้วครับ