ผลบอล⚽เลเวอร์คูเซินเปิดบ้านทุบแฟรงค์เฟิร์ต 3-1 คว้าชัยนัดแรก
ไบเออร์ เลเวอร์คูเซิน คว้าชัยชนะนัดแรกในศึกบุนเดสลีกาได้สำเร็จ หลังเปิดรัง ไบอารีน่า เอาชนะ ไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต 3-1 ในการแข่งขันเมื่อวันที่ 13 กันยายน แม้จะต้องเหลือผู้เล่นเพียง 9 คนในช่วงท้ายเกมก็ตาม โดยเกมนี้ อเล็กซ์ กรีมัลโด้ เหมาคนเดียวสองประตู บวกกับอีกลูกจากจุดโทษของ พาทริค ชิค ขณะที่ทีมเยือนได้ประตูตีไข่แตกจาก คาน อูซุน ทำให้จบเกม "ห้างขายยา" ขยับขึ้นไปอยู่อันดับ 7 ชั่วคราว ส่วนแฟรงค์เฟิร์ตมี 6 คะแนน รั้งอันดับ 4 ของตาราง
เหตุการณ์สำคัญในเกม
นาทีที่ 10: เลเวอร์คูเซินได้ฟรีคิกระยะอันตรายหน้ากรอบเขตโทษ และเป็น กรีมัลโด้ ที่รับหน้าที่ปั่นด้วยซ้าย บอลพุ่งชนเสาขวากระดอนมาโดนหลังผู้รักษาประตูเข้าประตูไปอย่างโชคช่วยให้เจ้าบ้านนำ 1-0
นาทีที่ 45+4: ช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก นาธาน เทลลา ลากบอลเข้าเขตโทษก่อนโดนเกี่ยวล้มลง ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษทันที และเป็น พาทริค ชิค รับหน้าที่สังหารไม่พลาด เลเวอร์คูเซินหนีเป็น 2-0
นาทีที่ 52: แฟรงค์เฟิร์ตได้ประตูตีไข่แตก จากจังหวะเตะมุมฝั่งขวา บอลถูกเปิดเข้ามาในเขตโทษและมีการโหม่งชงกันหลายจังหวะ ก่อนจะตกมาถึง คาน อูซุน ที่เกี่ยวบอลลงแล้วตวัดยิงเข้าไปตุงตาข่าย แฟรงค์เฟิร์ตไล่มาเป็น 1-2
นาทีที่ 59: สถานการณ์ของเจ้าบ้านเริ่มไม่ดีนัก เมื่อ โรเบิร์ต อันดริช ไปพุ่งเสียบสกัดหนักใส่คู่แข่ง ผู้ตัดสินแจกใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงไล่ออกจากสนามทันที เลเวอร์คูเซินเหลือ 10 คน
นาทีที่ 90+2: ช่วงทดเจ็บ เลเวอร์คูเซินต้องเหลือผู้เล่นเพียง 9 คน เมื่อ เอเซเกล ปาลาซิออส ไปเข้าสกัดหนักแบบเดียวกันและรับใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงไล่ออกไปอีกคน
นาทีที่ 90+8: แต่แล้วในช่วงทดเจ็บนาทีสุดท้าย เลเวอร์คูเซินมาได้ฟรีคิกตอกฝาโลง และเป็น กรีมัลโด้ คนเดิมที่ปั่นด้วยซ้ายข้างถนัด บอลโค้งข้ามกำแพงเสียบตาข่ายอย่างงดงามชนิดที่ผู้รักษาประตูได้แต่ยืนมอง เลเวอร์คูเซินปิดเกมชนะไป 3-1

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
จาก:ข่าวฮอต
โพสต์ฮอต
-
พรีวิวฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก: ลิเวอร์พูล vs เรอัล มาดริด -
วิเคราะห์บอล【เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก】นาซาฟ การ์ชิ VS อัล วาห์ดา(เอมิเรตส์) -
พรีวิวฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก: แมนเชสเตอร์ ซิตี้ vs โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ -
พรีวิวฟุตบอล เซเรียอา: ลาซิโอ vs กาญารี่ -
วิเคราะห์บอล【เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก】อัล การาฟา VS อัล ฮิลาล -
พรีวิวฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก: คาราบัค vs เชลซี



