แรชฟอร์ดเผย ผมต้องมีความสุขถึงจะเล่นฟุตบอลได้ดีที่สุด

บทสัมภาษณ์พิเศษ มาร์คัส แรชฟอร์ด กับ Daily Sports ที่พูดถึงเดือนแรกของเขาในทีมบาร์เซโลน่า นี่เป็นการให้สัมภาษณ์ครั้งแรกกับสื่อสเปนหลังจากเซ็นสัญญากับบาร์เซโลน่า

ตั้งแต่ย้ายมาคุณก็แสดงความใฝ่ฝันที่จะเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่ยิ่งใหญ่ คุณรู้สึกอย่างไรกับทีมนี้และเมืองนี้

แรชฟอร์ด: ดีมาก ทุกอย่างใหม่และยอดเยี่ยม ผมกำลังปรับตัวอยู่แต่ใช่ มันเป็นเมืองที่สวยงาม ผมมีความสุขที่ได้ใช้เวลาที่นี่

ความสุขสำหรับคุณคืออะไร

แรชฟอร์ด: (หยุดไปสองสามวินาที) ง่ายๆเลยก็คือความรู้สึกตื่นเต้นในตอนที่คุณตื่นขึ้นมาเพื่อเริ่มต้นวันใหม่ มันเป็นความรู้สึกที่อธิบายได้ยาก แต่คุณจะรู้ได้เองเมื่อคุณมีมันและเมื่อคุณไม่มี

คุณย้ายมาบาร์เซโลน่าตอนอายุ 27 หลังจากผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากมาบ้าง คุณรู้สึกว่าตอนนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญในอาชีพการงานของคุณไหม

แรชฟอร์ด: ทุกช่วงเวลาในอาชีพการงานมีความสำคัญ สำหรับผมแล้วนี่เป็นความท้าทายอีกครั้ง ผมมาที่นี่เพราะนี่คือสิ่งที่ผมต้องการ เป้าหมายของผมคือการคว้าชัยชนะ

แต่เมื่อคุณมองไปในอนาคต คุณเห็นตัวเองสร้างประวัติศาสตร์และทิ้งร่องรอยไว้ที่บาร์เซโลน่าไหม

แรชฟอร์ด: ใช่แน่นอนครับ แต่ผมก็เชื่อว่าในสโมสรที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานแบบนี้ นักเตะทุกคนเป็นเพียงส่วนเล็กๆ ถ้าผมสามารถช่วยเขียนประวัติศาสตร์นี้ได้มันจะยอดเยี่ยมมาก แต่เหมือนที่พวกคุณพูด ตอนนี้เป็นแค่สัญญายืมตัว ดังนั้นผมต้องใช้ชีวิตอยู่ในปัจจุบัน พยายามทำให้ดีที่สุดและสนุกกับการเดินทาง

คุณอยู่ที่บาร์เซโลน่ามาสองสามสัปดาห์แล้วและห้องแต่งตัวก็ไม่ได้ใช้ภาษาเดียวกับคุณ ในสถานการณ์แบบนี้สิ่งแรกที่มักจะเรียนรู้คือคำสบถ ห้องแต่งตัวเป็นอย่างไรบ้างสำหรับคุณ ตอนนี้คำภาษาสเปนที่คุณได้ยินบ่อยที่สุดคืออะไร

แรชฟอร์ด: ตอนที่พวกเขาสนุกกัน พวกเขาจะเรียกผมว่า 'ที่รัก' (chuche) ผมไม่รู้ความหมายหรอกแต่ก็ตลกดีที่พวกเขาเรียกคุณแบบนั้น (หัวเราะ) ใช่ๆ พวกเขารู้ว่าผมกำลังพยายามเรียนภาษาสเปนอยู่ ผมคิดว่ามันสำคัญมากที่ผมต้องเรียนรู้ให้เร็วที่สุด ดังนั้นมันน่าตื่นเต้นมาก คุณเรียนรู้อะไรใหม่ๆอยู่เสมอและมันเป็นสิ่งที่ดี

แล้วภาษาคาตาลันล่ะ

แรชฟอร์ด: ภาษาคาตาลันยากครับ ผมคิดว่าตราบใดที่ผมอยู่ที่นี่ ผมจะเรียนรู้นิดหน่อย หวังว่ามันจะช่วยให้ผมเข้าใจวัฒนธรรมของคาตาโลเนียมากขึ้นด้วยซึ่งเป็นสิ่งที่ผมอยากทำ

กุนเด้เคยบอกว่าเขามองเห็นเงาของตัวเองในตัวคุณเพราะคุณทั้งคู่มีลักษณะที่เงียบขรึม คุณรู้สึกอย่างไรที่ถูกรายล้อมไปด้วยนักเตะอายุน้อยมากมาย ใครช่วยคุณได้มากที่สุดในการปรับตัว

แรชฟอร์ด: ผมคิดว่าตอนนี้การปรับตัวง่ายขึ้นเพราะเราเริ่มเล่นเกมกันแล้ว ดังนั้นตอนนี้เราไม่พึ่งความช่วยเหลือมากนักเพราะเราทุกคนต่างมุ่งเน้นไปที่การคว้าชัยชนะ มันง่ายมากครับ คุณรู้ไหม เรามาที่นี่เพื่อฝึกซ้อมเพื่อสนุกและเพื่อชัยชนะ ดังนั้นใช่แล้ว นั่นคือเป้าหมายและผมก็แค่พยายามพัฒนาตัวเองในทุกๆวัน

คุณทำผลงานในเกมกับมายอร์ก้าเป็นอย่างไรบ้าง

แรชฟอร์ด: ดีครับ เป็นประสบการณ์ใหม่และรู้สึกดี แต่ยิ่งผมเล่นในลีกนี้มากเท่าไหร่ ผมก็จะยิ่งเก่งขึ้น และมันก็เป็นเรื่องดีที่ได้เริ่มต้นฤดูกาลด้วยชัยชนะ แน่นอนว่าเกมนั้นค่อนข้างแปลก มีใบแดงสองใบ แต่สิ่งสำคัญคือการชนะ

คุณคิดว่าตัวเองจะปรับตัวได้อย่างไร

แรชฟอร์ด: คุณไม่มีทางรู้ได้อย่างแน่นอน แต่ตั้งแต่เริ่มต้นผมก็รู้สึกสบายใจมากครับ ในสนามผมจะเรียนรู้มากขึ้นในแต่ละเกมอย่างแน่นอน แต่จุดเริ่มต้นดีมาก ยิ่งแข่งมากเท่าไหร่ผมก็จะเรียนรู้มากขึ้นเท่านั้น บาร์เซโลน่าเป็นที่ที่ง่ายที่สุดที่จะสนุกกับฟุตบอลและเรียนรู้ฟุตบอล

คุณมาจากพรีเมียร์ลีกซึ่งเป็นหนึ่งในลีกที่มีพื้นที่การเล่นกว้างกว่า แต่ที่บาร์ซ่าคุณจะเจอกับทีมที่เน้นการตั้งรับ นี่คือความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดของคุณไหม

แรชฟอร์ด: ผมคิดว่าอาจจะใช่ ในสเปนมีพื้นที่น้อยกว่า แต่ผมคิดว่าเกมกับมายอร์ก้าเป็นกรณีที่แปลกมากครับ คุณรู้ไหม เพราะพวกเขามีผู้เล่นในสนามน้อยกว่าสองคนดังนั้นพวกเขาจึงเน้นการป้องกัน แต่ไม่ใช่ทุกเกมที่จะเป็นแบบนั้น ตอนที่ผมเล่นในอังกฤษคุณสามารถเตรียมพร้อมสำหรับเกมๆหนึ่งได้หลายอย่างแต่ฟุตบอลก็คือฟุตบอล และนั่นคือเหตุผลที่เราทุกคนรักกีฬานี้เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ดังนั้นผมคิดว่าในฐานะกองหน้าคุณแค่ต้องเตรียมพร้อม รู้จักอ่านคู่ต่อสู้และปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ แน่นอนว่าพื้นที่จะน้อย ดังนั้นคุณต้องคิดและเคลื่อนไหวให้เร็ว

ตลอดอาชีพการงานของคุณคุณเป็นดาวเด่นของทีมแต่ตอนนี้คุณต้องเริ่มต้นจากม้านั่งสำรอง บางคนคิดว่าในบทบาทนี้มันยากที่จะเห็นแรชฟอร์ดที่ดีที่สุด...

แรชฟอร์ด: นี่เป็นบทบาทใหม่สำหรับผม แต่เป้าหมายยังคงเหมือนเดิมคือการชนะเกม ดังนั้นไม่สำคัญว่าเราจะชนะเกมอย่างไร

แต่ในแง่ของสภาพจิตใจ มันอาจจะแตกต่างกันมาก คุณไม่คิดอย่างนั้นหรือ เมื่อคุณเป็นตัวจริง คุณสามารถเล่นได้อย่างอดทนซึ่งเป็นสิ่งที่คุณไม่มีเมื่อลงสนามเป็นตัวสำรอง...

แรชฟอร์ด: ใช่ การลงมาเป็นตัวสำรองค่อนข้างยากเพราะคุณเข้าสู่เกมโดยที่ไม่มีจังหวะของเกม แน่นอนว่าจะมีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อย มีความแตกต่างเล็กน้อยที่คุณต้องทำ แต่ผมมั่นใจว่าจะปรับตัวได้ เมื่อพูดถึงที่สุดแล้วตราบใดที่ผมมีความสุขกับฟุตบอล ผมก็จะก้าวต่อไป

ฟลิคให้คุณเล่นสองตำแหน่งคือกองหน้าตัวกลางและกองหน้าตัวริมเส้น เขาเคยบอกว่าบางครั้งมันยากที่จะให้คุณเป็นเบอร์ "9" แบบทั่วไปเพราะคุณไม่เห็นแก่ตัว คิดถึงการจ่ายบอลมากกว่าการยิงประตู มันแตกต่างกันไหมที่บาร์ซ่า คุณรู้สึกว่าคุณสามารถสร้างผลกระทบได้ทั้งสองตำแหน่งเลยไหม คุณชอบตำแหน่งไหนมากกว่ากัน

แรชฟอร์ด: ผมสามารถเล่นได้ทั้งสองตำแหน่ง แต่ท้ายที่สุดแล้วสิ่งสำคัญคือการช่วยทำประตูและแอสซิสต์ ผมไม่สนใจว่าจะเล่นตำแหน่งไหน ผมคิดว่านักเตะรอบตัวผมเก่งมากและจ่ายบอลได้ดีดังนั้นตราบใดที่ผมวิ่งอย่างเหมาะสมและตรงเวลา ผมก็สามารถสร้างโอกาสและทำประตูได้เสมอ

คุณช่วยบอกอะไรเราเกี่ยวกับลามีน ยามาล ได้บ้าง

แรชฟอร์ด: เขาเป็นนักเตะชั้นยอด เป็นสุดยอดพรสวรรค์ สิ่งที่น่าประหลาดใจที่สุดคือเขาเป็นผู้ใหญ่มากเมื่อเทียบกับอายุของเขา วิธีที่เขาคิดและวิธีที่เขาเล่น เขาอยู่เหนือคนในวัยเดียวกันมาก การได้เล่นกับเขาและคนอื่นๆมันน่าตื่นเต้นมาก ผมกำลังปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม จังหวะและสไตล์การเล่นฟุตบอล และสถานที่ที่ดีที่สุดในการปรับตัวคือในสนาม ผมจะทำผิดพลาดแต่ก็จะเรียนรู้และพัฒนาขึ้นมาก ระดับของนักเตะที่นี่ช่วยได้มากครับ เหมือนที่ผมพูดไปก่อนหน้านี้ ที่ที่ง่ายที่สุดสำหรับผมในการเรียนรู้คือในสนาม

คุณคิดว่ายามาลจะคว้าบัลลงดอร์ได้ไหม คุณคิดว่าตอนนี้เขาคู่ควรหรือยัง

แรชฟอร์ด: ใช่แน่นอนครับ ถ้าเขาไม่ได้ปีนี้ในอนาคตเขาก็จะได้อย่างแน่นอน เดมเบเล่ ราฟินญ่า พวกเขาก็สมควรได้รับมันด้วย มันยากที่จะเลือกคนใดคนหนึ่ง แต่พวกเขาทั้งหมดเป็นผู้ใหญ่และมีฤดูกาลที่ยอดเยี่ยม ยามาลยังเด็กมากและในอนาคตเขาจะคว้าบัลลงดอร์ได้อย่างแน่นอน

เราเคยเห็นยามาลทางโทรทัศน์และในเกม แต่ไม่รู้ว่าเขาเป็นอย่างไรในห้องแต่งตัวหรือในฐานะบุคคล เขาเป็นคนประเภทไหน เขาเป็นนักเตะที่มีพรสวรรค์มากที่สุดที่คุณเคยเล่นด้วยหรือไม่

แรชฟอร์ด: ในฐานะบุคคลเขาเป็นเด็กอายุ 18 ปี ตลกเสมอ หัวเราะเสมอและชอบแกล้งคนอื่น ในห้องแต่งตัวที่มีนักเตะอายุน้อยมากมาย มันทำให้เรามีกำลังใจ มันทำให้ผมนึกถึงตอนที่ผมอายุเท่าเขา... ใช่ครับ เมื่อเทียบกับอายุของเขา เขาคือนักเตะที่มีพรสวรรค์มากที่สุดที่ผมเคยเล่นด้วย ผมไม่เคยเห็นหรือเล่นกับใครในวัยเดียวกันที่มีอิทธิพลต่อเกมได้ขนาดนี้ อาจจะโรนัลโด้ การมีอิทธิพลในสนามขนาดนี้ตั้งแต่ยังเด็กและคงเส้นคงวาแบบนี้มันน่าทึ่งมากครับ เขายังมีอาชีพอีกยาวไกลรออยู่และผมหวังว่าเขาจะรักษาระดับนี้ไว้หรือเก่งขึ้นไปอีก

โรนัลโด้คือไอดอลของคุณใช่ไหม

แรชฟอร์ด: ใช่ครับ เขาเป็นหนึ่งในนักเตะที่ผมชอบดูมากที่สุดตอนเด็กๆ และผมยังชอบดูวิดีโอเก่าๆ ของเขาจนถึงทุกวันนี้ แต่ตำแหน่งกองหน้าตัวกลางก็เปลี่ยนไปมากแล้ว แต่สำหรับผมแล้วเขาเป็นกองหน้าเบอร์ 9 ที่ผมชอบที่สุด

จุดแข็งที่สุดของคุณคืออะไร

แรชฟอร์ด: ผมคิดว่าเป็นการวิ่งหาช่อง แต่คุณก็รู้ว่าผมสามารถทำอะไรได้หลายอย่าง ผมสามารถทำอะไรได้หลายอย่างและสนุกกับเกมได้ ถึงแม้ส่วนที่สนุกที่สุดคือการทำประตูและแอสซิสต์ เป้าหมายหลักของผมคือการชนะ และเพื่อที่จะคงเส้นคงวา ผมต้องมีความสุขเพราะนั่นเป็นวิธีเดียวที่ผมจะเล่นฟุตบอลได้ดีที่สุด

บางทีทีมนี้อาจจะคว้าแชมป์แชมเปียนส์ลีกได้...

แรชฟอร์ด: ใช่แน่นอนครับ ไม่ใช่แค่แชมเปียนส์ลีกแต่เป็นทุกรายการที่ลงแข่ง ฤดูกาลที่แล้วพวกเขาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ตอนนี้สิ่งที่เราต้องทำคือลืมมันไปและพยายามทำซ้ำและทำให้ดีขึ้น

เมื่อไม่กี่วันก่อนคุณบอกว่ากุญแจสู่ความสำเร็จในสโมสรใหญ่คือสโมสรต้องมีรากฐานและลักษณะที่อยู่เหนือผู้เล่นและโค้ช นั่นจึงจะทำให้คว้าแชมป์อย่างแชมเปียนส์ลีกได้ คุณเห็นสิ่งเหล่านี้ในบาร์เซโลน่าชุดนี้ไหม

แรชฟอร์ด: ใช่ครับ พวกเขามีรากฐานเหล่านี้ ไม่อย่างนั้นฤดูกาลที่แล้วพวกเขาคงไม่คว้าถ้วยรางวัลสามใบหรอกครับ สภาพจิตใจและแรงจูงใจของทีมสูงมาก ผมไม่เห็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงจะคว้าแชมป์ที่เราเข้าร่วมไม่ได้เลย ในความเห็นของผมทีมพร้อมที่จะคว้าถ้วยรางวัลแล้ว ผมแค่อยากช่วยทีมให้มากที่สุด ฤดูกาลยังอีกยาวนาน ฟุตบอลไม่แน่นอน แต่ทีมและทีมงานด้านเทคนิคมีสภาพจิตใจที่แข็งแกร่งมากที่จะรับมือกับความท้าทายใดๆ

อะไรที่ทำให้เปดรีพิเศษมาก

แรชฟอร์ด: ถ้าคุณไม่รู้ว่าเขาอายุเท่าไหร่ คุณจะคิดว่าเขาอายุ 28 หรือ 29 ปีเพราะเขาเป็นผู้ใหญ่มากและเข้าใจเกมได้อย่างสมบูรณ์แบบ เขาเล่นในจังหวะของตัวเอง ซึ่งทำให้กองหน้าเล่นกับเขาได้ง่ายมาก

เราได้เห็นนักเตะเยาวชนจากลา มาเซียในเกมอุ่นเครื่องนี้ที่ทำให้ทุกคนประหลาดใจ คุณคิดว่าทำไมนักเตะจากลา มาเซียถึงพร้อมสำหรับระดับสูงสุดได้ขนาดนี้

แรชฟอร์ด: ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องของวัฒนธรรม เพราะพวกเขามีความสามารถอย่างเห็นได้ชัด แต่สำหรับนักเตะอายุน้อย บางครั้งสิ่งที่สำคัญคือสภาพจิตใจคือความเชื่อที่ว่าพวกเขาสามารถลงไปในสนามและสู้กับนักเตะที่ดีที่สุดในโลกและแสดงให้เห็นในระดับเดียวกันได้ ถ้าคุณดูเทคนิคและความกระตือรือร้นของนักเตะอายุน้อยเหล่านี้ เห็นได้ชัดว่าพวกเขามีความสามารถที่จะเล่นในระดับสูงสุดได้ แต่มันก็ไม่น่าแปลกใจเพราะเราทุกคนรู้ว่าลา มาเซียได้สร้างผู้เล่นระดับโลกมากมาย

แล้วเดโร่ตอนนี้พร้อมแล้วหรือยัง

แรชฟอร์ด: ฟังนะ คุณไม่มีทางรู้ได้อย่างแน่นอนว่านักเตะอายุน้อยพร้อมจริงๆ หรือยังจนกว่าพวกเขาจะได้ลงไปในสนามจริงๆ แต่จากสิ่งที่ผมเห็นในการฝึกซ้อม เขาพร้อมที่จะลงสนามแล้ว พร้อมที่จะช่วยทีม และผมคิดว่าเขาได้พิสูจน์แล้ว ไม่ใช่แค่เดโร่เท่านั้นแต่รวมถึงนักเตะอายุน้อยคนอื่นๆด้วย

นักเตะชอบฟลิคเพราะเขาเป็นนักสื่อสารที่ยอดเยี่ยม เขาพูดคุยกับทุกคนและตรงไปตรงมา คุณคิดว่าเขาเป็นโค้ชประเภทไหน คุณคุยอะไรกันบ้างในช่วงสองสามสัปดาห์แรกนี้

แรชฟอร์ด: เขาเป็นโค้ชที่ตรงไปตรงมามาก ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญโดยเฉพาะเมื่อทีมมีนักเตะอายุน้อยมากมาย ทิศทางต้องชัดเจน แรงจูงใจของเขาสูงมากและต้องทำให้ดีกว่าฤดูกาลที่แล้ว นี่คือปัจจัยหลักที่ทำให้เชื่อว่าทีมจะประสบความสำเร็จได้ เขาเป็นโค้ชที่พิเศษที่รู้วิธีทำงานร่วมกับนักเตะระดับแนวหน้า ผมรู้สึกตื่นเต้นมาก

ฟุตบอลมีความหมายกับคุณอย่างไร มันคือทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมดไหม

แรชฟอร์ด: สำหรับตัวผมเอง... ฟุตบอลคือชีวิตของผม คุณรู้ไหม ตั้งแต่ผมยังเด็กมากๆ มันก็คือชีวิตของผมจริงๆ ผมไม่รู้อะไรอย่างอื่นเลย ดังนั้นความผูกพันระหว่างผมกับมัน ไม่ใช่แค่เรื่องอาชีพการงานของผมเท่านั้นแต่เกี่ยวกับกีฬาโดยรวม ความผูกพันนี้ลึกซึ้งมากจนผมไม่คิดว่ามันจะหายไป อย่างไรก็ตาม ใช่ การมีความสุขในการเล่นฟุตบอลเป็นสิ่งที่ดีเสมอ นี่คือเหตุผลแรกที่ผมเริ่มเล่นกีฬานี้

ตอนคุณยังเป็นเด็กคุณอาศัยอยู่ในย่านที่ยากลำบากในแมนเชสเตอร์ คุณมีความทรงจำอะไรเกี่ยวกับช่วงเวลานั้นบ้าง มันยากสำหรับคุณไหม

แรชฟอร์ด: มันไม่ยากครับเพราะสำหรับผมแล้วมันเป็นเรื่องปกติ (หัวเราะ) ผมเติบโตในสภาพแวดล้อมแบบนั้น ดังนั้นผมจึงจำไม่ได้ว่ามันยากขนาดไหน ผมรู้ว่ามันอาจจะยากกว่าสำหรับพ่อแม่ของผม แต่สำหรับผมมันก็เป็นแค่วันธรรมดา เพื่อนของผมทั้งหมดมาจากชุมชนเดียวกัน เราอยู่ด้วยกันเสมอ และคุณรู้ไหม นั่นคือชีวิตปกติของผม

แม่ของคุณมีความหมายกับคุณอย่างไร

แรชฟอร์ด: เป็นคนสำคัญมากครับ สิ่งที่แม่มอบให้ผมและพี่น้อง ผมไม่สามารถตอบแทนได้หมดเลย เธอรู้ดีว่าพวกเราซาบซึ้งและมีความสุขแค่ไหน นั่นทำให้ผมมีความสุขมาก

เธอเคยบอกคุณว่า “ไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ”

แรชฟอร์ด: เธอพูดถูกครับ ไม่มีอะไรในชีวิตที่ได้มาฟรีๆ มันมีราคาที่ต้องจ่ายเสมอ และเมื่อผมพูดว่าราคาที่ต้องจ่าย ผู้คนก็จะคิดถึงเรื่องเงิน แต่ทุกการตัดสินใจที่คุณทำจะส่งผลตามมาเสมอ การตัดสินใจที่สำคัญคุณต้องคิดให้รอบคอบและทำด้วยความมั่นใจเพราะคุณอาจจะไม่มีโอกาสครั้งที่สอง

คุณช่วยเด็กๆที่ขัดสนในอังกฤษมาหลายปี การช่วยเหลือผู้อื่นเป็นหนึ่งในเป้าหมายชีวิตของคุณไหม

แรชฟอร์ด: ผมพยายามที่จะทำให้สิ่งที่พวกเขามีอยู่แล้วดีขึ้น สำหรับผมแล้ว เด็กคืออนาคตของประเทศคืออนาคตของโลก ดังนั้นในฐานะผู้ใหญ่ มันเป็นความรับผิดชอบของเราที่จะปกป้องพวกเขาและให้โอกาสพวกเขาได้เป็นคนที่ดีที่สุดในแบบของตัวเอง

คุณเป็นคนที่คิดมากในชีวิตและในฟุตบอล คุณคิดว่าสิ่งนี้ช่วยหรือทำร้ายคุณในฐานะนักฟุตบอล เพราะบางครั้งการคิดมากเกินไปในสนามก็แย่กว่า...

แรชฟอร์ด: ผมคิดว่ามันขึ้นอยู่กับนักเตะครับ ผมจำได้ว่าตอนผมยังเด็กมาก ผมไม่ค่อยคิดอะไรมากเท่าไหร่ แต่พออายุ 15-16 ปี ผมเริ่มคิดถึงรายละเอียดมากขึ้นและมันช่วยให้ผมเข้าใจว่ากองหลังกำลังคิดอะไรอยู่ ดังนั้นวิธีนี้ได้ผลสำหรับผม แต่ผมไม่คิดว่ามันเป็นวิธีที่ใช้ได้กับทุกคน

ตอนคุณเป็นเด็กและอยู่ในอคาเดมีของแมนยูฯ รูนีย์ก็อยู่ข้างๆ ทุกคนไปขอถ่ายรูปด้วย แต่คุณกลับบอกพี่ชายว่า “ผมไม่อยากถ่ายรูปด้วยหรอกเพราะในอนาคตผมจะได้เล่นกับเขา” คุณมีความมั่นใจแบบนี้มาตลอดอาชีพการงานของคุณไหม มันมาจากไหน

แรชฟอร์ด: ผมคิดว่าความมั่นใจมาจากภายใน ไม่ใช่แค่เรื่องฟุตบอลเท่านั้น ผมหวังว่าจะมีความมั่นใจในชีวิตด้วย และผมพยายามที่จะจินตนาการผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในหัวเสมอ มันเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กแล้วครับ ผมไม่รู้ว่าตอนที่ผมพูดประโยคนั้น ผมมั่นใจเกินไปหรือแค่มีความมุ่งมั่นที่จะเชื่อว่าผมสามารถเล่นกับนักเตะคนโปรดคนหนึ่งของผมได้ ดังนั้นใช่ครับ อาจจะเป็นความมั่นใจ หรืออาจจะเป็นแค่ความฝัน