ช็อกตาค้าง! "เอ็มบัปเป้" สร้างประวัติศาสตร์! ฟอร์มโหดกว่า "โด้" ซีซั่นแรกกับราชันชุดขาว…สถิติตัวเลขไม่โกหก!

ย้อนกลับไปในปี 2009 โรนัลโด้ย้ายจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดมาสู่เรอัล มาดริด และเรื่องราวหลังจากนั้นคือตำนานบทใหญ่ เขาคือนักเตะที่ยิงประตูสูงสุดตลอดกาลของสโมสร พาทีมคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 3 สมัยติดต่อกัน และทำลายสถิติการทำประตูแทบทุกอย่างที่สโมสรเคยมี
15 ปีต่อมา เอ็มบัปเป้ก็ก้าวเท้าเข้าสู่เมืองหลวงของสเปน ด้วยความมุ่งมั่นที่จะเดินตามรอยเท้าไอดอลในวัยเยาว์ แม้จะยังต้องใช้เวลาอีกนานกว่าที่ "น้องเป้" จะเก็บเกี่ยวถ้วยรางวัลและความสำเร็จได้เทียบเท่า "พี่โด้" แต่ฤดูกาลแรกของเขากลับสร้างปรากฏการณ์ และพาตัวเองก้าวขึ้นสู่ทำเนียบนักเตะชั้นยอดเคียงข้างไอคอนชาวโปรตุเกสได้อย่างรวดเร็ว
มาดูกันว่าสถิติฤดูกาลแรกของเอ็มบัปเป้กับเรอัล มาดริดนั้น จะเปรียบเทียบกับของโรนัลโด้ในทุกรายการได้อย่างไรบ้าง!
มิติรวม: ใครคือเครื่องจักรถล่มประตูตัวจริง
ตัวเลขบ่งชี้ชัดว่า เอ็มบัปเป้มีภาษีดีกว่าโรนัลโด้ในด้านการทำประตู! มาดูกันที่สถิติรวมทุกรายการในฤดูกาลแรกของทั้งคู่:
- คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ลงสนาม 35 นัด ทำไป 33 ประตู และ 10 แอสซิสต์
- คิลิยัน เอ็มบัปเป้ ลงสนาม 56 นัด ทำไป 43 ประตู และ 5 แอสซิสต์
ดาวยิงเลือดน้ำหอมซัดไป 43 ประตูในทุกรายการในฤดูกาลแรกกับเรอัล มาดริด มากกว่าที่โรนัลโด้ทำได้ถึง 10 ลูก! แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าเอ็มบัปเป้ลงสนามมากกว่าถึง 21 นัด ซึ่งก็เป็นโอกาสอันดีที่จะได้งัดสกอร์ให้ได้มากที่สุด
ในทางกลับกัน โรนัลโด้ทำแอสซิสต์ได้มากกว่าเอ็มบัปเป้ถึง 5 ครั้ง กัปตันทีมชาติโปรตุเกสรายนี้ปิดฉากฤดูกาลแรกด้วยการมีส่วนร่วมกับประตูรวม 43 ครั้งจากการลงสนามเพียง 35 นัด ส่วนเอ็มบัปเป้ แม้จะมีส่วนร่วมกับประตูรวม 48 ครั้ง แต่ก็ต้องใช้การลงสนามถึง 56 นัด
ทั้งสองผู้เล่นต่างปิดฤดูกาลแรกในฐานะดาวซัลโวประจำทีม ซึ่งเอ็มบัปเป้ยังสร้างประวัติศาสตร์ร่วมกับ คาริม เบนเซม่า ในฐานะนักเตะเพียงสองคนที่ยิงประตูได้ใน 6 รายการแข่งขันที่แตกต่างกันในฤดูกาลแรกกับเรอัล มาดริด ซึ่งเป็นสถิติที่โรนัลโด้ไม่เคยทำได้ตลอดอาชีพค้าแข้งกับสโมสร
เจาะลึก ลาลีกา: ใครคือหัวใจสำคัญในแดนกระทิงดุ
มาดูผลงานเฉพาะในลีกสูงสุดของสเปนกันบ้าง:
- คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ลงสนาม 29 นัด ทำไป 26 ประตู และ 9 แอสซิสต์
- คิลิยัน เอ็มบัปเป้ ลงสนาม 34 นัด ทำไป 31 ประตู และ 3 แอสซิสต์
เอ็มบัปเป้ยิงไป 31 ประตูในลาลีกา เหนือกว่าโรนัลโด้ที่ทำได้ 26 ประตู แต่สิ่งสำคัญที่ต้องจำคือ โรนัลโด้พลาดการลงสนามไปเกือบสองเดือนเนื่องจากอาการบาดเจ็บข้อเท้าในฤดูกาลแรกกับยักษ์ใหญ่แห่งสเปน
กระนั้นก็ตาม แม้จะพักรักษาตัวนานพอสมควร แต่กองหน้าชาวโปรตุเกสรายนี้ก็ปิดฤดูกาลลาลีกาด้วยการมีส่วนร่วมกับประตูรวม 35 ครั้ง ซึ่งมากกว่าเอ็มบัปเป้ที่ทำได้ 34 ครั้งเสียอีก! นี่แสดงให้เห็นว่าแม้โรนัลโด้จะไม่ได้ยิงประตูเอง เขาก็ยังเป็นคนป้อนบอลให้เพื่อนร่วมทีมไปถล่มตาข่ายได้อย่างต่อเนื่อง
ส่วนเอ็มบัปเป้ ทำได้เพียง 3 แอสซิสต์จากการลงสนาม 34 นัดในลาลีกา ซึ่งบ ่งบอกว่าเขาเน้นไปที่การทำประตูด้วยตัวเองมากกว่าที่จะมองหา วินิซิอุส จูเนียร์ หรือ โรดรีโก้ ที่อยู่ด้านข้าง
ศึกยุโรป: ใครคือเจ้าแห่งถ้วยบิ๊กเอียร์
มาถึงเวทีที่โรนัลโด้คือเจ้าของสถิติมากมายอย่างยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก:
- คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ลงสนาม 6 นัด ทำไป 7 ประตู และ 1 แอสซิสต์
- คิลิลิยัน เอ็มบัปเป้ ลงสนาม 14 นัด ทำไป 7 ประตู และ 1 แอสซิสต์
ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่โรนัลโด้ ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นสุดยอดนักเตะตลอดกาลในประวัติศาสตร์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก จะทำผลงานในเวทียุโรปได้น่าประทับใจกว่าเอ็มบัปเป้ในฤดูกาลแรก ดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของเรอัล มาดริด ซัดไป 7 ประตูจากการลงสนามในแชมเปี้ยนส์ลีกเพียง 6 นัด!
โรนัลโด้น่าจะบวกสกอร์เพิ่มได้อีก แต่เรอัล มาดริดต้องตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายด้วยน้ำมือของโอลิมปิก ลียง โดยกองหน้ารายนี้ยิงได้เพียงประตูเดียวจากการแข่งขัน 180 นาทีกับทีมจากลีกเอิง ซึ่งไม่เพียงพอที่จะพาทีมผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศ
ส่วนเอ็มบัปเป้ ยิงได้จำนวนประตูเท่ากัน (7 ลูก) แต่ใช้จำนวนนัดที่ลงสนามมากกว่าถึงสองเท่า! โดยสามในเจ็ดประตูของดาวยิงฝรั่งเศสมาจากเกมนัดที่สองในรอบเพลย์ออฟแชมเปี้ยนส์ลีกกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้
อย่างไรก็ตาม ดาวยิงวัย 26 ปีรายนี้กลับไม่สามารถยิงประตูได้เลยในรอบ 16 ทีมสุดท้ายกับแอตเลติโก มาดริด และรอบก่อนรองชนะเลิศกับอาร์เซนอล ซึ่ง “ปืนใหญ่” เป็นฝ่ายเขี่ย “ราชันชุดขาว” ตกรอบด้วยสกอร์รวม 5-1
เกียรติยศและถ้วยรางวัล: ใครได้ลิ้มรสความสำเร็จก่อน
โรนัลโด้ไม่สามารถคว้าแชมป์ใดๆ ได้เลยในฤดูกาลแรกกับเรอัล มาดริด ไม่เพียงแต่ทีมจะมือเปล่า แต่ตัวโรนัลโด้เองก็ไม่ได้รับรางวัลส่วนตัวใดๆ ในฤดูกาลนั้น
แต่สำหรับเอ็มบัปเป้ เขาได้สัมผัสความสำเร็จกับเรอัล มาดริดตั้งแต่ปีแรก โดยชูถ้วยแชมป์ถึงสองรายการ:
- ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ
- ฟีฟ่า คอนติเนนตัล คัพ
กองหน้าทีมชาติฝรั่งเศสยังยิงประตูได้ในรอบชิงชนะเลิศทั้งสองรายการ ซึ่งเป็นการการันตีว่าเรอัล มาดริดได้ถ้วยรางวัลติดไม้ติดมือในฤดูกาลที่แม้จะดูน่าผิดหวังในแชมเปี้ยนส์ลีก
นอกจากนี้ เอ็มบัปเป้ยังคว้ารางวัลรองเท้าทองคำยุโรป (European Golden Boot) และรางวัลปิชิชี่ (Pichichi Trophy) จากผลงาน 31 ประตูในลีก และเขากลายเป็นผู้เล่นคนที่สี่ในประวัติศาสตร์สโมสรที่คว้าปิชิชี่ได้ตั้งแต่ฤดูกาลแรกที่มาค้าแข้ง ร่วมกับตำนานอย่าง อัลเฟรโด้ ดิ สเตฟาโน่, ฮูโก้ ซานเชซ และ รุด ฟาน นิสเตลรอย
เขายังทำลายสถิติการทำประตูในฤดูกาลแรกกับเรอัล มาดริด ซึ่งเคยเป็นของ อีวาน ซาโมราโน่ ไม่มีผู้เล่นคนใดในประวัติศาสตร์เรอัล มาดริดที่ยิงประตูได้มากกว่าเอ็มบัปเป้ (43 ประตู) ในฤดูกาลแรกที่สวมเสื้อสีขาว
โดยรวมแล้ว ฤดูกาลแรกของเอ็มบัปเป้กับเรอัล มาดริดนั้น ถือว่าสร้างประวัติศาสตร์และมีภาษีดีกว่าฤดูกาลแรกของโรนัลโด้อย่างชัดเจน! แรงกดดันทั้งหมดจึงตกไปอยู่ที่ดาวยิงชาวฝรั่งเศสรายนี้แล้ว ในการช่วยทีมคว้าถ้วยรางวัลสำคัญๆ ให้ได้ในฤดูกาลหน้า!
จาก:ข่าวฮอต
โพสต์ฮอต
-
พรีวิวฟุตบอล ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 2025: แมนเชสเตอร์ ซิตี้ vs อัล ฮิลาล
-
พรีวิวฟุตบอล ฟีฟ่าคลับเวิลด์คัพ: เรอัล มาดริด vs ยูเวนตุส
-
พรีวิวการแข่งขันระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พบ อัล ฮิลาล
-
พรีวิวฟุตบอล ฟีฟ่าคลับเวิลด์คัพ : เบนฟิก้า vs เชลซี
-
พรีวิวฟุตบอล ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ : ปารีส แซงต์ แชร์กแมง vs อินเตอร์ ไมอามี ซีเอฟ
-
พรีวิวฟุตบอล ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 2025: อินเตอร์ มิลาน vs ฟลูมิเนนเซอาร์เจ