Mobile
APP
 
 

แชร์
ฟีดแบค
Thscore> ข่าวฟุตบอล> ข่าวฮอต> เชลซี,อังกฤษ,แมนเชสเตอร์ ยูไนเ...

ผีอาการหนัก! บุกพ่ายสิงห์ 0-1 ร่วงที่ 16, 8 นัดหลังเก็บได้แค่ 2 แต้ม! เชลซีทะยานขึ้นที่ 4

ผีอาการหนัก! บุกพ่ายสิงห์ 0-1 ร่วงที่ 16, 8 นัดหลังเก็บได้แค่ 2 แต้ม! เชลซีทะยานขึ้นที่ 4
ค่ำคืนวันอังคารที่ 16 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ 37 เปิดฉากขึ้นด้วยเกมบิ๊กแมตช์ระหว่าง "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ที่มีมูลค่านักเตะรวมกว่า 920 ล้านยูโร เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่มีมูลค่านักเตะรวม 700 ล้านยูโร

ไฮไลท์สำคัญของเกม:

ตลอดครึ่งแรก เชลซี ที่ดูมีความมุ่งมั่นมากกว่า เป็นฝ่ายครองเกมและสร้างโอกาสได้เหนือกว่าอย่างชัดเจน แต่กลับเป็น แมนฯ ยูไนเต็ด ที่เกือบได้ประตูขึ้นนำก่อน เมื่อ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ สอดขึ้นมาแปบอลเข้าประตูไป แต่ถูกจับล้ำหน้าไปเสียก่อน
หลังจากนั้น รีซ เจมส์ ของ เชลซี ได้โอกาสปั่นด้วยข้างเท้าด้านนอก บอลพุ่งชนเสาอย่างจัง ช่วง 15 นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก เกมค่อนข้างเนือยลง มีเพียงจังหวะยิงของ โคล พาล์มเมอร์ และการเซฟของ อ็องเดร โอนาน่า ที่พอให้ได้ลุ้น
จบครึ่งแรก สกอร์ยังเสมอกันอยู่ที่ 0-0 โดยสถิติการยิงประตูรวมอยู่ที่ 7-1 ครั้ง แต่มีเพียงครั้งเดียวที่ตรงกรอบ ครึ่งหลัง ทั้งสองทีมเปิดเกมแลกกันมากขึ้น รูปเกมดูเปิดกว้าง และในนาทีที่ 71 รีซ เจมส์ โชว์ทักษะยอดเยี่ยม เปิดบอลให้ มาร์ค กูร์กูเรย่า โหม่งพังประตูชัยให้ เชลซี ได้สำเร็จ
สุดท้าย เชลซี เปิดบ้านเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปด้วยสกอร์ 1-0 เก็บสามแต้มสำคัญได้สำเร็จ หลังจบเกมนี้ ส่งผลให้ นิวคาสเซิ่ล, เชลซี และ แอสตัน วิลล่า มีคะแนนเท่ากัน แต่ด้วยผลต่างประตูได้เสีย นิวคาสเซิ่ล ยังคงรั้งอันดับ 3 ตามด้วย เชลซี อันดับ 4 และ วิลล่า อันดับ 5 ส่วน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ยังไม่ได้ลงแข่งในสัปดาห์นี้ หล่นไปอยู่อันดับ 6 ตามหลังอยู่เพียง 1 คะแนน
สำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สถานการณ์ยังคงน่าเป็นห่วง 8 นัดหลังสุดในลีก เสมอ 2 แพ้ไปถึง 6 นัด ยังคงรั้งอันดับ 16 ของตาราง โดยมี ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ตามหลังอยู่
ผีอาการหนัก! บุกพ่ายสิงห์ 0-1 ร่วงที่ 16, 8 นัดหลังเก็บได้แค่ 2 แต้ม! เชลซีทะยานขึ้นที่ 4
จังหวะน่าสนใจในเกม:

นาทีที่ 15: บรูโน่ แฟร์นันด์ส เปิดบอลอย่างแม่นยำให้ แม็กไกวร์ ที่เติมขึ้นมายิงเข้าประตู แต่ระบบกึ่งอัตโนมัติจับล้ำหน้า ยืนยันว่า แม็กไกวร์ ล้ำหน้าเล็กน้อย ประตูจึงถูกยกเลิก
นาทีที่ 24: โนนี่ มาดูเอเก้ ไหลบอลย้อนกลับมาให้ รีซ เจมส์ ซัดด้วยข้างเท้าด้านนอก บอลโค้งสวยงามแต่ไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 28: เชลซี ได้ลูกเตะมุม เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ ยิงไปโดนแขนของ ราสมุส ฮอยลุนด์ ผู้เล่น เชลซี พยายามประท้วงเอาจุดโทษ แต่ผู้ตัดสินไม่ให้
ทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก: โคล พาล์มเมอร์ ยิงบอลพุ่งเข้ากรอบ อ็องเดร โอนาน่า ปัดไว้ได้ เอ็นโซ่ ที่อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า ซ้ำข้ามคานออกไป
นาทีที่ 61: จอร์จี้ (นักเตะเชลซี) ลากบอลเข้าเขตโทษ ก่อนที่ อ็องเดร โอนาน่า จะออกมาปะทะ ผู้ตัดสินเป่าให้เป็นจุดโทษทันที แต่หลังจากการตรวจสอบจาก VAR ผู้ตัดสินได้เปลี่ยนคำตัดสิน
นาทีที่ 71: รีซ เจมส์ โชว์ทักษะหมุนตัวหลบคู่แข่ง ก่อนจ่ายบอลแบบไม่มองให้ มาร์ค กูร์กูเรย่า โหม่งตุงตาข่าย "สิงห์บลูส์" ขึ้นนำสำเร็จ
นาทีที่ 55 (จังหวะของแมนยู): เมสัน เมานท์ พาบอลสวนกลับเร็ว เขาเลือกที่จะไม่จ่ายให้ ฮอยลุนด์ ที่อยู่ตรงกลาง แต่จ่ายออกไปทางริมเส้นให้ อาหมัด ดิยัลโล่ ก่อนที่ ดิยัลโล่ จะตบกลับมาให้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ยิงอย่างเร่งร้อน

รายชื่อผู้เล่น:
เชลซี (ตัวจริง): 1-โรเบิร์ต ซานเชซ, 24-รีซ เจมส์, 4-อดาราบิโอโย่, 6-โคลวิลล์, 3-กูร์กูเรย่า, 25-ไกเซโด้, 8-เอ็นโซ่, 11-มาดูเอเก้, 20-พาล์มเมอร์, 7-เปโดร เนโต้, 32-จอร์จี้
เชลซี (ตัวสำรอง): 12-ยอร์เกนเซ่น, 13-เบตติเนลลี่, 5-บาเดียชิล, 23-ชาโลบาห์, 34-อาร์ชิมปง, 30-อันเซลมิโน่, 27-กุสโต้, 45-ลาเวีย, 22-ฮอลล์
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (ตัวจริง): 24-อ็องเดร โอนาน่า, 2-ลินเดอเลิฟ, 3-(มาซราวี - ชื่ออาจไม่ถูกต้องในบริบทนี้), 5-แม็กไกวร์, 13-(โดกู - ชื่ออาจไม่ถูกต้องในบริบทนี้), 23-ลุค ชอว์, 8-บรูโน่ แฟร์นันด์ส, 18-คาเซมิโร่, 7-เมานท์, 16-อาหมัด ดิยัลโล่, 9-ฮอยลุนด์
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (ตัวสำรอง): 1-บายินเดียร์, 41-อามาส, 55-เฟรเดริกเซ่น, 26-(ไห่เหวิน - ชื่ออาจไม่ถูกต้องในบริบทนี้), 43-คอลลีเออร์, 14-อีริคเซ่น, 37-ไมนู, 17-การ์นาโช่, 25-อูการ์เต้
Copyright © 2025 Powered By Thscore All Rights Reserved.