อิตาลีตกต่ำ! พลาดบอลโลกติดต่อกัน 2 สมัย + ตกรอบเร็วในยูโร ระบบฟุตบอลอิตาลีมีปัญหา
ปี 2018 และ 2022 อิตาลีพลาดการเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลกสองครั้งติดต่อกัน นับเป็นความอับอายครั้งใหญ่ของวงการฟุตบอลอิตาลี และที่ไม่คาดคิดคือในศึกยูโรครั้งนี้ ทีมชาติอิตาลีในฐานะแชมป์เก่า กลับพ่ายแพ้ให้กับสวิตเซอร์แลนด์ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ยุติเส้นทางการแข่งขันที่เยอรมนีอย่างรวดเร็ว
ย้อนกลับไปในศึกยูโร 2021 ท่ามกลางความคาดหวังที่ไม่สูงนัก อิตาลีกลับสร้างเซอร์ไพรส์คว้าแชมป์มาครองได้ราวกับปาฏิหาริย์ เหมือนเป็นผ้าผืนบางๆ ปิดบังปัญหาที่แท้จริงเอาไว้ ดังนั้นในยูโรครั้งนี้ ชาวอิตาลีทุกคนจึงหวังว่าทีมชาติจะกลับมาผงาดอีกครั้ง ยิ่งไปกว่านั้น ฟอร์มของทีมฟุตบอลจากอิตาลีในปีนี้ก็ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่อิตาลีขึ้นมาครองอันดับหนึ่งของตารางคะแนนยูฟ่า คัพ ได้รับสิทธิพิเศษจากยูฟ่าให้มีทีมจากเซเรีย อา เข้าร่วมแข่งขันยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ถึง 5 ทีมในฤดูกาลหน้า นอกจากนี้ ในศึกฟุตบอลยุโรป 3 รายการใหญ่ประจำฤดูกาลนี้ ยังมี 2 ทีมจากอิตาลีที่ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ โดยอาตาลันต้าสามารถเอาชนะเลเวอร์คูเซ่น คว้าแชมป์ยูโรป้า ลีก และฟิออเรนติน่าคว้ารองแชมป์ยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ ลีก
ทว่า น่าเสียดายที่เส้นทางของอิตาลีในศึกยูโรครั้งนี้ต้องยุติลงอย่างรวดเร็ว เมื่อพ่ายแพ้ให้กับสวิตเซอร์แลนด์ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย กลายเป็นทีมแรกที่ต้องจอดป้าย แชมป์เก่าร่วงหล่นอย่างไม่น่าเชื่อ! เกมนัดนี้เผยให้เห็นถึงปัญหาของฟุตบอลอิตาลีอย่างชัดเจน ทั้งฝีเท้าของนักเตะที่ดร็อปลง เทคนิคที่ไม่เฉียบคม และการประสานงานที่ไม่ลงตัว เรียกได้ว่าเป็นความพ่ายแพ้ที่ย่อยยับ! ฟุตบอลอิตาลีที่ครั้งหนึ่งเคยยิ่งใหญ่บนเวทีโลก กลับต้องมาตกต่ำถึงเพียงนี้ได้อย่างไร
การล่มสลายของฟุตบอลอิตาลี เป็นผลมาจากความถดถอยของระบบโดยรวม นับตั้งแต่เกิด "คดีกัลโช่โปลี" (คดีอื้อฉาวล้มบอลในเซเรีย อา) เซเรีย อา ก็เริ่มเดินลงเหว อิทธิพลของลีกถูกพรีเมียร์ลีกทิ้งห่าง และในปัจจุบันยังเป็นรองทั้งบุนเดสลีกาและลาลีกา ยุคทองของ "เซเว่น ซิสเตอร์ส" (7 ทีมยักษ์ใหญ่แห่งเซเรีย อา) กลายเป็นเพียงตำนานเล่าขาน
ความตกต่ำของเซเรีย อา นำไปสู่ปัญหาใหญ่ในหลายๆ ด้าน ทั้งในเรื่องลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด อำนาจในการต่อรอง และการกระจายรายได้ จากการสำรวจของนิตยสารฟอร์บส์เกี่ยวกับมูลค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดของ 5 ลีกดังยุโรปประจำปีนี้ พบว่า พรีเมียร์ลีกครองอันดับ 1 ด้วยมูลค่าเฉลี่ย 42.15 พันล้านเหรียญสหรัฐต่อปี ตามมาด้วยลาลีกาและบุนเดสลีกา ในขณะที่เซเรีย อามีมูลค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดเฉลี่ยเพียง 11.93 พันล้านเหรียญสหรัฐต่อปี ลดลงจากสัญญาฉบับก่อนหน้าถึง 15.8%
หากดูจากการกระจายรายได้จากลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดของเซเรีย อา ประจำฤดูกาล 2022/2023 จะเห็นได้ว่า ทีมยักษ์ใหญ่ดั้งเดิมอย่าง อินเตอร์ มิลาน (87.10 ล้านยูโร), นาโปลี (80.30 ล้านยูโร), เอซี มิลาน (80.00 ล้านยูโร), ยูเวนตุส (78.60 ล้านยูโร), ลาซิโอ (70.70 ล้านยูโร), โรม่า (68.20 ล้านยูโร) กินส่วนแบ่งไปเกือบทั้งหมด ในขณะที่ทีมอย่างเครโมเนเซ่ซึ่งมีรายได้จากลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดต่ำที่สุด ได้รับเงินไม่ถึง 30 ล้านยูโรด้วยซ้ำ ส่งผลให้หลายสโมสรในเซเรีย อา ประสบปัญหาขาดทุนอย่างหนัก
เค้กของเซเรีย อา เล็กลงเรื่อยๆ ทำให้หลายทีมต้องอดอยาก ในสถานการณ์ที่หลายสโมสรต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอด การทุ่มทุนสร้างระบบเยาวชนจึงเป็นเรื่องยาก นั่นจึงทำให้ฟุตบอลอิตาลีในช่วงหลายปีที่ผ่านมาต้องพึ่งพาผู้เล่นผ่านศึกฟุตบอล จนละเลยการพัฒนานักเตะรุ่นใหม่ เหตุผลที่อิตาลีคว้าแชมป์ยูโรครั้งที่แล้วได้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟจอมเก๋าอย่าง จอร์โจ คีเอลลินี และ เลโอนาร์โด โบนุชชี ที่ช่วยกันผนึกแนวรับอย่างแข็งแกร่ง โดยในรอบน็อกเอาท์ 4 นัด อิตาลีเสมอกับคู่แข่งใน 90 นาที ถึง 3 นัด รวมถึงนัดชิงชนะเลิศกับอังกฤษ หากปราศจากสองนักเตะที่ทุ่มเทอย่างสุดกำลังในทัวร์นาเมนต์ส่งท้ายอาชีพ อิตาลีคงไม่ได้สัมผัสกับแชมป์อย่างแน่นอน
ในศึกยูโรครั้งนี้ ทีมชาติอิตาลีขาดขุนพลตัวหลักอย่าง คิเอลลินี, โบนุชชี และ อินโมบิเล่ ส่งผลให้ความแข็งแกร่งของทีมลดลงอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ ยุทธวิธีและการปรับตัวของทีมชาติอิตาลียังค่อนข้างเชื่องช้า ทำให้ขาดทั้งแผนการเล่นใหม่ๆ และนักเตะพรสวรรค์ที่จะมาช่วยยกระดับทีม ผลงานในรอบแบ่งกลุ่มที่พ่ายแพ้ต่อสเปน และการจอดป้ายเพียงรอบ 16 ทีมสุดท้ายด้วยน้ำมือของสวิตเซอร์แลนด์ คือเครื่องพิสูจน์ถึงความล้าหลังของทีมชาติอิตาลีในยุคปัจจุบันได้เป็นอย่างดี
คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือระดับโลกของเรอัล มาดริด ได้ออกมาวิเคราะห์ว่า แม้ในช่วงสองฤดูกาลที่ผ่านมา จะมีถึง 5 ทีมจากเซเรีย อา ที่ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศของศึกฟุตบอลยุโรป 3 รายการใหญ่ แต่มีเพียงอาตาลันต้าทีมเดียวเท่านั้นที่คว้าแชมป์มาครองได้ นั่นเป็นเพราะฟุตบอลอิตาลีเหลือเพียงแค่ซูเปอร์สตาร์เพียงคนเดียว นั่นคือ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า ผู้รักษาประตูมือหนึ่งของทีมชาติอิตาลีที่ปัจจุบันค้าแข้งอยู่กับปารีส แซงต์ แชร์กแมง! ซึ่งดอนนารุมม่า ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความสำคัญของเขาในทัวร์นาเมนต์นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเกมที่พบกับสเปน หากปราศจากฟอร์มอันเหนียวหนึบของเขา อิตาลีอาจจะถูกกระทิงดุขย้ำยับกว่านี้ก็เป็นได้!
การหวังพึ่งพาเพียงแค่ผู้รักษาประตูเพียงคนเดียว คงไม่เพียงพอที่จะประสบความสำเร็จในเวทีระดับนานาชาติ การตกรอบยูโรตั้งแต่หัววันเช่นนี้ คงทำให้วงการฟุตบอลอิตาลีต้องกลับมาทบทวนตัวเองอย่างจริงจัง หากไม่เร่งพัฒนาระบบการฝึกสอนเยาวชน ยกระดับความสามารถในการแข่งขันของลีกอาชีพ และแสวงหาโอกาสใหม่ๆ ในระดับโลก ฟุตบอลอิตาลีคงยากที่จะกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งในเร็วๆ นี้
โพสต์ฮอต
-
ประวัติเลเวอร์คูเซ่น (Bayer 04 Leverkusen) ยอดทีมลีกเยอรมนี
-
วิเคราะห์บอล เอซี มิลาน VS เซอร์เวน่า ซเวซด้า
-
วิเคราะห์บอล เอเอส โรม่า VS สปอร์ติ้ง บราก้า
-
พรีวิวการแข่งขันระหว่าง ยูเวนตุส พบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้
-
ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 10 ธ.ค. 67 หงส์แดงบุกเยือน! เฮดโค้ชใหม่พาทีม💥ฟอร์มร้อนแรง
-
วิเคราะห์บอล เอฟซี ชักตาร์ โดเน็ตส์ก VS บาเยิร์น มิวนิค