ยูโร 2024 รอบ 16 ทีมสุดท้าย ได้ 11 ทีมแล้ว! โครเอเชีย - เซอร์เบีย ร่วงตกรอบ ประกบคู่เตะนัดแรก 2 คู่

วันที่ 26 มิถุนายน การแข่งขันฟุตบอลยูโร 2024 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม C และ กลุ่ม D ทั้ง 4 คู่ จบลงเป็นที่เรียบร้อย โดยผลปรากฎว่า ออสเตรีย ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ อังกฤษ เดนมาร์ก และสโลวีเนีย คว้าตั๋วผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายไปได้สำเร็จ ทำให้ตอนนี้ ได้ทีมเข้ารอบไปแล้ว 11 ทีม ขณะที่ เดนมาร์ก ยืนยันแล้วว่า จะต้องโคจรมาพบกับ เยอรมนี เจ้าภาพ ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย

ผลการแข่งขันในกลุ่ม D ออสเตรีย พลิกกลับมาเอาชนะ เนเธอร์แลนด์ ไปแบบสุดมัน 3-2 แม้ว่าจะโดนตีเสมอถึง 2 ครั้ง แต่สุดท้ายก็มาได้ประตูชัยจาก มาร์เซล ซาบิตเซอร์ เก็บเพิ่มเป็น 6 แต้ม คว้าแชมป์กลุ่มไปครอง ส่วน ฝรั่งเศส ทำได้เพียงแค่เสมอกับ โปแลนด์ 1-1 มี 5 แต้ม จบอันดับ 2 ของกลุ่ม ขณะที่ เนเธอร์แลนด์ มี 4 คะแนน ได้เข้ารอบในฐานะทีมอันดับ 3 ที่ดีที่สุด ส่วน โปแลนด์ มีเพียงแค่ 1 คะแนน รั้งท้ายตาราง ตกรอบไปอย่างน่าเสียดาย

ส่วนผลการแข่งขันในกลุ่ม C อังกฤษ เสมอกับ สโลวีเนีย 0-0 เช่นเดียวกับ เดนมาร์ก ที่เสมอกับ เซอร์เบีย 0-0 ทำให้ อังกฤษ มี 5 แต้ม คว้าแชมป์กลุ่มไปครอง ส่วน เดนมาร์ก และ สโลวีเนีย มี 3 คะแนนเท่ากัน แต่ เดนมาร์ก ได้เข้ารอบในฐานะทีมอันดับ 2 จากผลต่างประตูได้เสียที่ดีกว่า ขณะที่ เซอร์เบีย มีเพียง 2 คะแนน จอดป้ายเพียงเท่านี้

จากการเข้ารอบของ สโลวีเนีย ทำให้ โครเอเชีย ของ ลูกา โมดริช หมดสิทธิ์ลุ้นเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย โดยทีมที่ตกรอบไปแล้วในตอนนี้ ได้แก่ สกอตแลนด์ โครเอเชีย แอลเบเนีย โปแลนด์ และ เซอร์เบีย

สำหรับ 11 ทีม ที่ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายมีดังนี้
กลุ่ม A : เยอรมนี (แชมป์กลุ่ม) สวิตเซอร์แลนด์ (รองแชมป์กลุ่ม)
กลุ่ม B : สเปน (แชมป์กลุ่ม) อิตาลี (รองแชมป์กลุ่ม)
กลุ่ม C : อังกฤษ (แชมป์กลุ่ม) เดนมาร์ก (รองแชมป์กลุ่ม) สโลวีเนีย (อันดับ 3)
กลุ่ม D : ออสเตรีย (แชมป์กลุ่ม) ฝรั่งเศส (รองแชมป์กลุ่ม) เนเธอร์แลนด์ (อันดับ 3)
กลุ่ม F : โปรตุเกส (อันดับ 1 ของกลุ่ม แน่นอนแล้ว)
สำหรับ 2 คู่แรก ที่ยืนยัน การแข่งขันในรอบ 16 ทีมสุดท้ายแล้ว มีดังนี้
เดนมาร์กพบกับเยอรมนี
อิตาลีพบกับสวิตเซอร์แลนด์