เลเวอร์คูเซ่นคว้าแชมป์บุนเดสลีกาสมัยแรก! ชาบี อลอนโซ่ กุนซือหนุ่มพา "ไร้พ่าย" 43 เกม

เลเวอร์คูเซ่นสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์บุนเดสลีกาสมัยแรก! ใช้เวลาเพียงปีครึ่ง จากทีมหนีตกชั้น สู่ยอดทีมไร้พ่าย 43 เกม!
เลเวอร์คูเซ่น ทีมจากบุนเดสลีกาเยอรมัน กลายเป็นทีมที่สร้างเซอร์ไพรส์ใหญ่ที่สุดในรอบหลายปี เมื่อพวกเขาคว้าแชมป์บุนเดสลีกาฤดูกาล 2023-24 สำเร็จ

เลเวอร์คูเซ่นเอาชนะWerde 5-0 ในเกมลีกนัดที่ 29 เมื่อวันที่ 15 เมษายนที่ผ่านมา เก็บ 3 แต้มสำคัญ กาารันตีแชมป์ลีกก่อนจบฤดูกาล 5 นัด

การคว้าแชมป์ครั้งนี้ ถือเป็นการทำลายสถิติการครองแชมป์ติดต่อกันยาวนาน 11 ปี ของบาเยิร์น มิวนิค และเป็นการคว้าแชมป์บุนเดสลีกาสมัยแรกของเลเวอร์คูเซ่น ในรอบ 120 ปี ของสโมสร

เลเวอร์คูเซ่น ก่อตั้งสโมสรเมื่อปี 1904 เคยคว้าแชมป์รองบุนเดสลีกา 4 สมัย ในช่วงปี 1996-2002 แต่ไม่เคยสัมผัสกับแชมป์ลีกสูงสุดมาก่อน

จุดเปลี่ยนสำคัญ เกิดขึ้นเมื่อ ชาบี อลอนโซ่ อดีตตำนานกองกลางทีมชาติสเปน เข้ารับตำแหน่งผู้จัดการทีมในเดือนตุลาคมปี 2022

ตอนนั้น เลเวอร์คูเซ่น รั้งอันดับรองบ๊วยของตาราง แต่ภายใต้การคุมทีมของ อลอนโซ่ เลเวอร์คูเซ่น พลิกฟื้นอย่างน่าทึ่ง จบฤดูกาล 2022-23 ด้วยอันดับ 6 และในฤดูกาลนี้ เลเวอร์คูเซ่น กลายเป็นทีมที่แข็งแกร่งที่สุดในลีก พวกเขาโชว์ฟอร์มไร้พ่ายในลีก 29 นัด และไร้พ่าย 43 เกมในทุกรายการ นอกจากแชมป์บุนเดสลีกาแล้ว เลเวอร์คูเซ่น ยังเข้าชิงชนะเลิศเดเอฟเบโพคาล และผ่านเข้ารอบ 8 ทีมยูฟ่ายูโรปาลีก

ความสำเร็จของ เลเวอร์คูเซ่น ในฤดูกาลนี้ ยกเครดิตให้ ชาบี อลอนโซ่ กุนซือหนุ่มวัย 41 ปี ที่สามารถพาทีมที่ไร้ประสบการณ์ ผ่านมรสุม และคว้าแชมป์ลีกสูงสุดได้สำเร็จ อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจ นั่นคือ แฮร์รี่ เคน กองหน้ากัปตันทีมชาติอังกฤษ ของสเปอร์ส กลายเป็น "คนแพ้" อีกครั้ง

เคน พยายามอย่างหนักเพื่อพาทีมสเปอร์สคว้าแชมป์ แต่สุดท้าย สเปอร์ส กลับจบอันดับ 4 พลาดโอกาสไปแชมเปี้ยนส์ลีก นอกจากนี้ เคน ยังพลาดโอกาสคว้าแชมป์ลีกกับสเปอร์ส เป็นครั้งที่ 5 กลายเป็น "คนแพ้" ตัวยงในวงการฟุตบอล

เคน: เสาหลักของทีมชาติอังกฤษ
ตั้งแต่ปี 2010 แฮร์รี่ เคน ยืนหยัดเป็นเสาหลักของทีมชาติอังกฤษ  การทำผลงานของเขากับทีมชาติถือว่าน่าประทับใจ  เขาครองตำแหน่งดาวซัลโวตลอดกาลของทีมด้วยจำนวน 62 ประตู  สมกับฉายา "กองหน้าจอมถล่มประตู"

ความสำเร็จในสโมสรที่ยังไม่สมบูรณ์
หากเทียบกับผลงานในทีมชาติ  เส้นทางค้าแข้งของเขากับสโมสรกลับดูไม่สดใสเท่าไหร่นัก  ตลอดเวลาที่เล่นให้กับสเปอร์สในพรีเมียร์ลีก  เคนโชว์ฟอร์มการทำประตูและแอสซิสต์ได้อย่างเฉียบคม  จนกลายเป็นดาวซัลโวสูงสุดของลีก

อย่างไรก็ตาม  แม้จะมีฝีเท้าระดับพระกาฬ  สเปอร์สกลับไม่สามารถคว้าแชมป์ลีกหรือถ้วยรางวัลสำคัญใดๆ ได้เลย  แม้จะเข้าชิงชนะเลิศรายการต่างๆ อยู่บ่อยครั้ง  แต่สเปอร์สก็ต้องพ่ายแพ้ในช่วงท้ายเสมอ  ส่งผลให้เคนต้องเผชิญกับ "ชีวิตนักฟุตบอลไร้แชมป์"

การผจญภัยครั้งใหม่กับบาเยิร์น มิวนิค
ด้วยความผิดหวังที่สะสมมา  ปีที่แล้ว เคนตัดสินใจอำลาสเปอร์สเพื่อไปเล่นในต่างประเทศ  เขาเซ็นสัญญากับบาเยิร์น มิวนิค ยอดทีมจากบุนเดสลีกา  ด้วยความหวังว่าจะได้สัมผัสกับรสชาติของการเป็นแชมป์

ผลงานที่ยอดเยี่ยม
หลังย้ายมาบาเยิร์น เคนทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม  เขาลงเล่นไป 39 นัดในทุกรายการ  ยิงประตูได้ 39 ประตู  และแอสซิสต์อีก 12 ครั้ง

ฝันร้ายซ้ำเดิม
น่าเสียดายที่ฤดูกาลนี้  บาเยิร์น มิวนิค ต้องพ่ายแพ้ต่อฟอร์มการเล่นที่ร้อนแรงของเลเวอร์คูเซน  ส่งผลให้บาเยิร์นยุติการครองแชมป์บุนเดสลีกาติดต่อกัน 11 ปี  และเคนต้องเผชิญกับ "ชีวิตไร้แชมป์" อีกครั้ง

ความทะเยอทะยานที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง
ในบทสัมภาษณ์กับสื่ออังกฤษ  เคนเคยกล่าวว่า  เขามุ่งมั่นที่จะประสบความสำเร็จเหมือนกับคริสเตียโน โรนัลโด้ และลิโอเนล เมสซี่  เขาอยากได้ลงเล่นในแชมเปียนส์ลีก ยิงประตูให้ได้มากกว่า 60 ประตูต่อฤดูกาล   และคว้าแชมป์ในทุกๆ ฤดูกาล

เคนกล่าวว่า "ผมไม่อยากลดมาตรฐานของตัวเอง  เมื่อผมเลิกเล่นฟุตบอล  ผมอาจจะเสียใจที่ไม่ได้ทำอะไรให้มากขึ้น  ไม่ได้ยิงประตูให้ได้มากขึ้น  นั่นคือแรงจูงใจของผม" จนถึงปัจจุบัน  เคนยังคงรอคอยแชมป์แรกในชีวิตของเขาต่อไป