ตั๋ว 3 ใบสุดท้าย

สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาถึงกลางสัปดาห์นี้ไม่มีเกมลูกหนังระดับสโมสรเนื่องจากเป็นคิวของบรรดาทีมชาติต่างๆ หรือ “ฟีฟ่า เดย์” ที่แต่ละชาติจะลงฟาดแข้งตามทัวร์นาเมนต์ที่แตกต่างกันไป

ไม่ว่าจะเป็นศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก ที่มีแข่งในโซนเอเชีย ซึ่งทัพ “ช้างศึก” ทีมชาติไทย เพิ่งสร้างผลงานยอดเยี่ยมบุกไปยันเสมอ “โสมขาว” เกาหลีใต้ มาได้ 1-1 และจะกลับมาเล่นนัดต่อไปในวันอังคารที่ 26 มี.ค.นี้ หรือจะเป็นศึกยูโร 2024 รอบเพลย์ออฟ ที่หาอีก 3 ทีมเพื่อเข้าไปลุยรอบสุดท้ายที่เยอรมนี

ส่วนชาติอื่นๆที่ไม่มีคิวลงฟาดแข้งแบบทัวร์นา เมนต์ ก็ลงเล่นในเกมอุ่นเครื่อง โดยเฉพาะทีมจากยุโรปที่ต้องเตรียมความพร้อมก่อนลุยศึกชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปปี 2024 หรือยูโร 2024 รอบสุดท้ายที่ประเทศเยอรมนี

สำหรับยูโร 2024 รอบสุดท้ายที่จะฟาดแข้งระหว่างวันที่ 14 มิถุนายน จนถึง 14 กรกฎาคม 2567 ซึ่งตอนนี้ได้ 21 ตัวแทนผ่านเข้ามาสู่รอบสุดท้ายและได้ทำการจับสลากแบ่งสายออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว “มะระหวาน” ก็จะมาสรุปให้ได้รับทราบอีกครั้งดังนี้

กลุ่มเอ : เยอรมนี (เจ้าภาพ), สกอตแลนด์, ฮังการี, สวิตเซอร์แลนด์

กลุ่มบี : สเปน, โครเอเชีย, อิตาลี, แอลเบเนีย

กลุ่มซี : สโลวีเนีย, เดนมาร์ก, เซอร์เบีย, อังกฤษ

กลุ่มดี : ผู้ชนะเพลย์ออฟสายเอ, เนเธอร์แลนด์, ออสเตรีย, ฝรั่งเศส

กลุ่มอี : เบลเยียม, สโลวะเกีย, โรมาเนีย, ผู้ชนะเพลย์ออฟสายบี

กลุ่มเอฟ : ตุรกี, ผู้ชนะเพลย์ออฟสายซี, โปร ตุเกส, เช็ก

เมื่อมองดูจากผลการแบ่งสายยูโร 2024 แล้วบอกได้เลยว่าปีนี้เป็นอีกครั้งที่ศึกหายอดทีมแห่งทวีปยุโรปจะซัดกันมันระดับ 5 ดาวแน่นอน เพราะชาติหลักๆ ก็มากันครบไม่มีใครแตกแถวหนีหายไปไหนเลย

ส่วนอีก 3 ทีมที่เหลือที่ผ่านเข้าไปเติมเต็มในรอบสุดท้ายนั้นก็กำลังจะฟาดฟันกันเพื่อชิงตั๋ว 3 ใบสุดท้าย

โดยรอบเพลย์ออฟ ยูโร 2024 ไม่ได้มาจากรอบคัดเลือกรอบปกติที่จบไปก่อนหน้านี้ แต่เป็นการนำผลงานของแต่ละทีมในศึกยูฟ่า เนชันส์ ลีก ในฤดูกาล 2022-2023 ไม่ว่าจะเป็นลีกเอ, ลีกบี, ลีกซี และลีกดี มาจัดอันดับเพื่อหาทีมที่สามารถผ่านเข้าสู่รอบเพลย์ออฟ

โดยทีมแชมป์ของแต่ละสายจะได้สิทธิ์ลงเล่นในรอบเพลย์ออฟก่อนแต่ถ้าหากผ่านเข้ารอบยูโร 2024 ไปในการคัดเลือกรอบปกติแล้ว สิทธิ์ดังกล่าวก็ตกเป็นของทีมรองลงมาที่ยังไม่ได้ตั๋วไปเล่นในรอบสุดท้าย

หลังจากจัดสรรเรียงอันดับกันแล้วผลปรากฏว่าก็ได้ 12 ทีมผ่านเข้ามาเล่นในรอบเพลย์ออฟ สายเอ โปแลนด์, เวลส์, ฟินแลนด์, เอสโตเนีย, สายบี อิสราเอล, บอสเนีย, ไอซ์แลนด์, ยูเครน และสายซี จอร์เจีย, กรีซ, ลักเซมเบิร์ก และคาซัคสถาน

รอบนี้จะแข่งแบบน็อกเอาต์ใครชนะ 2 ครั้งก็จะคว้าตั๋วไปลุยรอบสุดท้ายที่เยอรมนีทันที

ซึ่งเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาก็ได้ฟาดแข้งในรอบเพลย์ออฟเกมแรกไปแล้ว ผลปรากฏว่า สายเอ โปแลนด์ ถล่มเอสโตเนีย 5-1, เวลส์ ที่โค่นฟินแลนด์ 4-1, สายบี ยูเครนบุกไปทุบบอสเนียพังคารัง 2-1, ไอซ์แลนด์ ชนะอิสราเอล 2-1 และสายซี กรีซชนะ คาซัคสถาน 5-0, จอร์เจียชนะลักเซมเบิร์ก 2-0

โดยในรอบไฟนอลของการเพลย์ออฟคู่ชิงชนะเลิศออกมาดังนี้ เวลส์พบกับโปแลนด์, ยูเครน ดวลกับไอซ์แลนด์ และปิดท้ายกันที่จอร์เจียเจอกับกรีซ โดยจะฟาดแข้งกันในวันอังคารนี้ (26 มี.ค.)

เชื่อว่าทั้ง 3 คู่จะใส่กันเต็มที่ มีอะไรก็ใส่มาให้หมดในเกมนี้ เพราะถ้าพลาดหนนี้ไม่มีที่ให้แก้ตัวต้องรออีกทีก็ 4 ปีข้างหน้าเลย!!

*อิงจากthairath.co.th