1.8 ลีกปะทะ บอลถ้วย! "ม้าป่า" ดวล "นักฆ่ายยักษ์" ศึกด DFB-Pokal รอบ 8 ทีม

เดเอ็ฟเบ-โพคาล 13-03-2024 02:30 วันพุธ
ซาบรุคเค่นVSโบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค

ระเบิดศึกเดเอ็ฟเบ-โพคาลรอบ 8 ทีมสุดท้าย! สโมสร สารบรึคเคน จากลีก 3. ลีกา เยอรมันเตรียมเปิดรังต้อนรับการมาเยือนของ โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค ทีมจากบุนเดสลีกา ในวันอังคารที่ 12 มีนาคมนี้ หลังจากเกมนัดเดิมเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ถูกเลื่อนออกไปเนื่องจากสภาพสนามที่แฉะเกินไป

สารบรึคเคนสร้างชื่อเสียงเป็น "ผู้เชือดยักษ์" มาตลอดเส้นทางเดเอ็ฟเบ-โพคาล ฤดูกาลนี้ โดยโค่นยักษ์ใหญ่ บาเยิร์น มิวนิค และไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต ตกในรอบที่สองและสาม ตามลำดับ

ลูกทีมของ รูดี้ เซียลสร้างผลงานช็อกโลก ด้วยการเอาชนะ บาเยิร์น ยักษ์ใหญ่แห่งบุนเดสลีกา ไปได้ 1-0 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ รอบสอง จากนั้นก็มาเก็บชัยชนะเหนือ แฟร้งค์ฟวร์ทอีกครั้ง 2-0 ด้วยผลงานอันยอดเยี่ยมของ ไค บรุนเคอร์ และ ลูคัส แคร์เบอร์ ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย

ทั้งสองชัยชนะเกิดขึ้นที่รังเหย้าของสารบรึคเคนและในครั้งนี้ พวกเขาเตรียมต้อนรับอีกหนึ่งทีมจากบุนเดสลีกาหวังเดินหน้าสู่เส้นทางแชมป์เป็นสมัยที่ 4

ไม่ใช่ครั้งแรกที่ สารบรึคเคน ทะลุลึกในศึกเดเอ็ฟเบ-โพคาลเมื่อปี 2020 พวกเขาเคยเป็นทีมจากลีก 4 ทีมแรกที่ผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ เอาชนะฟอร์ทูน่า ดุสเซลดอร์ฟก่อนพ่าย บาเยอร์ เลเวอร์คูเซ่น ในรอบรองฯ

นับตั้งแต่กำจัด แฟร้งค์ฟวร์ท ทีมของ เซียล แพ้ไปเพียงนัดเดียวในเกมอย่างเป็นทางการ โดยเกมล่าสุด พวกเขาเพิ่งเอาชนะแอร์ซเกเบียร์เก้ เอาไปได้ 2-0 ถึงแม้จะรั้งอันดับ 8 ในลีก 3 ลีกา ตามหลังยาห์น เรเกนสบวร์ก จ่าฝูง 11 แต้ม (แข่งน้อยกว่า 1 นัด)

เป้าหมายของ สารบรึคเคน คือการรักษาสถิติไร้พ่าย และโค่นยักษ์อีกครั้ง เพื่อหวังทะลุเข้าสู่รอบรองชนะเลิศเดเอ็ฟเบ-โพคาลl เป็นครั้งที่ 4 ในประวัติศาสตร์สโมสร

ฝั่ง โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค ตระหนักดีว่า ศึกเดเอ็ฟเบ-โพคาล ปีนี้เปิดกว้าง ทีมเดียวที่เหลือรอดจากบุนเดสลีกาคือ บาเยอร์ เลเวอร์คูเซ่น พวกเขาหวังที่จะคว้าแชมป์รายการนี้เป็นสมัยที่ 4 หลังจากครั้งล่าสุดเมื่อปี 1995

ลูกทีมของ เจอร์ราร์โด ซีโอเน่ ติดอยู่กับกลางตารางบุนเดสลีกา ชนะเพียงครั้งเดียวจาก 8 เกมหลังสุด โอกาสไปเล่นฟุตบอลยุโรปแทบจะริบหรี่ โดยตามหลังไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต อันดับ 6 อยู่ 10 แต้ม

มึนเช่นกลัดบัคชนะในบ้านเพียงนัดเดียวจาก 12 เกม แต่หลังจากเอาชนะเฟาเอ็ฟเอ็ล ว็อลฟส์บวร์ค ไปได้อย่างหวุดหวิด 1-0 ด้วยลูกชัยของ มานู โคน ในรอบที่แล้ว พวกเขาก็อาจจะรู้สึกว่าโชคชะตา ยังคงอยู่เคียงข้างพวกเขาในบอลถ้วยใบนี้